อ.กิจขจร ลิ่วเฉลิมวงศ์

เทศนา คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(GLC:H.I.M.) อาทิตย์ที่  3 มี.ค.2024

ยชว7:1-26 อย่าประมาทพระเจ้า 

1. อย่าประมาทพระพรของพระเจ้า 

2. อย่าประมาทพระคุณของพระเจ้า 

1แต่ประชาชนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำสิ่งที่ต้องทำลายถวายบางส่วนไปเป็นของตน พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นต่อประชาชนอิสราเอล

2โยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนทางทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า “จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น” คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองอัย 3และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” 4เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย 5ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันพวกเขาตายประมาณ 36 คน โดยขับไล่เขาจากประตูเมืองไปถึงเชบาริม ฆ่าเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ

เบื้องหลังพระธรรมตอนนี้

  • โยชูวาได้รับพระพรจากพระเจ้าอย่างมาก เขามีประสบการณ์กับพระเจ้า อย่างอัศจรรย์ ทำให้เขามีความมั่นใจในความสำเร็จจะเกิดขึ้น

  • เขาเป็นผู้นำต่อจากโมเสส พระเจ้าให้ความมั่นใจในการตั้งเขาเป็นผู้นำ

  • ยชว1:1-3 ต่อมาหลังจากที่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์สิ้นชีวิตแล้ว พระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาบุตรนูนผู้ช่วยโมเสสว่า 2“โมเสสผู้รับใช้ของเราสิ้นชีวิตแล้ว บัดนี้เจ้าและชนชาตินี้ทั้งหมดจงลุกขึ้นข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ ไปยังแผ่นดินซึ่งเรายกให้พวกเขา คือประชาชนอิสราเอล 3ทุกๆ แห่งที่ฝ่าเท้าของเจ้าทั้งหลายจะเหยียบลง เราได้ยกให้พวกเจ้าดังที่เราได้สัญญาไว้กับโมเสส

  • พระเจ้าประทานหมายสำคัญเดินข้ามแม่น้ำจอร์แดนแห้ง 

  • ยชว4:23-24 เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงทำให้แม่น้ำจอร์แดนแห้งไปต่อหน้าท่าน จนท่านข้ามไปได้หมด ดังที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำต่อทะเลแดง ทรงทำให้แห้งเพื่อพวกเรา จนเราข้ามไปหมด 24เพื่อชนชาติทั้งสิ้นทั่วพิภพจะได้ทราบว่า พระหัตถ์พระยาห์เวห์นั้นทรงฤทธิ์ เพื่อพวกท่านจะยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นนิตย์”

  • โยชูวาให้จอมทัพของพระเจ้านำทัพในการตีเมืองเยรีโค ยชว5:13-1513เมื่อโยชูวาอยู่ข้างเมืองเยรีโคท่านได้เงยหน้าขึ้นมองดู นี่แน่ะ ชายคนหนึ่งชักดาบออกมาถือยืนอยู่ตรงหน้าท่าน โยชูวาเข้าไปหาชายนั้น กล่าวแก่เขาว่า “ท่านอยู่ฝ่ายเราหรืออยู่ฝ่ายศัตรู?” 14ผู้นั้นจึงตอบว่า “ไม่ใช่ เรามาในฐานะจอมทัพของพระยาห์เวห์” ฝ่ายโยชูวาก็กราบลงถึงดินนมัสการแล้วถามว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ท่านจะให้ผู้รับใช้ของท่านทำอะไร?” 15จอมทัพของพระยาห์เวห์จึงสั่งโยชูวาว่า “จงถอดรองเท้าออกจากเท้าของเจ้าเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์” โยชูวาก็ทำตาม

  • โยชูวายึดเมืองเยรีโค ด้วยการเดินรอบเมือง 6วันแรก เดินรอบเมืองวันละรอบ วันที่ 7เดิน 7รอบ และกำแพงเมืองเยรีโคก็พังทลายลง 

  • ยชว6:27 ดังนั้นแหละพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับโยชูวา และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปตลอดแผ่นดิน

หัวข้อคำเทศนาในวันนี้คือ ยชว7:1-26 อย่าประมาทพระเจ้า  2 ประการ

1. อย่าประมาทพระพรของพระเจ้า 

  • โยชูวาประมาทเพราะเขาได้รับพระพรจากพระเจ้าอย่างง่ายดาย ได้รับพระพรพระเจ้าอย่างมากมาย รับพระพรอย่างอัศจรรย์ 

  • โยชูวาคิดว่าพระพรของพระเจ้า ที่ประทานให้เขาจะไม่มีวันหมด เขาจะไม่มีวันแพ้สงคราม เขาจะมีแต่ความสำเร็จตลอดไป

  • เรารู้ว่าโยชูวามีความมั่นใจในพระพรของพระเจ้า และเขาประมาท

  • เพราะโยชูวาประเมินกำลังของศัตรูที่เมืองอัยต่ำเกินไป คิดว่าใช้คน 3 พันคนก็เอาชนะเมืองอัยได้แล้ว ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่ได้แสวงหาพระเจ้า 

  • ยชว7:3-4 และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” 4เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย

  • ความเป็นจริงตอนเขาชนะ พบว่า ศัตรูมี 12,000 คน ประเมินต่ำไป 4 เท่า

  • ยชว8:25‘คนที่ล้มตายทั้งหมดในวันนั้นทั้งชายและหญิง 12,000 คน คือชาวเมืองอัยทั้งหมด

  • ถ้าเราไม่อยากเป็นคนประมาท จนทำให้ชีวิตได้รับปัญหาความทุกข์ยากความลำบาก ความเดือดร้อน เราต้องมีเวลาใกล้ชิดพระเจ้าสม่ำเสมอ และแสวงหาพระเจ้าเป็นลักษณะชีวิต  อย่ารอให้มีปัญหาชีวิตตกต่ำ สถานการณ์ยากลำบาแล้วจึงค่อยมาแสวงหาพระเจ้า 

  • อย่าคิดว่าเราเชื่อพระเจ้านานแล้ว มีประสบการณ์กับพระเจ้าเยอะมาก รับพระพรจากพระเจ้าเยอะมาก เราไม่ต้องแสวงหาพระเจ้ามากเกิน 

  • อย่ามั่นใจในพระพรของพระเจ้ามากกว่ามั่นใจในพระเจ้า 

  • พระเยซูคริสต์เตือนเหล่าสาวกอย่าประมาทให้ระวัง มก14:38 ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อจะไม่ถูกการทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง”

2. อย่าประมาทพระคุณของพระเจ้า 

  • ยชว7:1แต่ประชาชนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำสิ่งที่ต้องทำลายถวายบางส่วนไปเป็นของตน พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นต่อประชาชนอิสราเอล

  • ยชว7:21 ท่ามกลางสิ่งของที่ริบมา ข้าพเจ้าเห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่งของเมืองบาบิโลนกับเงินสองกิโลกรัม และทองคำแท่งหนึ่งหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา นี่แน่ะ ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง”

  • อาคานยักยอกทรัพย์ของพระเจ้า เป็นของตนเอง โทษคงไม่หนักหนามาก พระเจ้าให้แผ่นดินคานาอันที่มีทรัพย์สินมากมาย ของยักยอกมูลค่านิดหน่อยไม่น่ามีผลเสียหายอะไรมาก 

  • เหมือนอาดัมเอวาที่คิดว่าพระเจ้าให้ทรัพยากรทั้งโลกเพื่อพวกเขาสองคน การกินต้นไม้ดีชั่วแค่ผลเดียว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นรุนแรงได้

  • อาคานคิดว่าคงไม่โดนจับได้หรอก คนตั้ง 6 แสนคน จะหาคนทำผิดไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ หรือไม่น่าทำได้เลย 

  • อาคาน คิดว่า เสื้อผ้า 1 ชุด เงิน 2 กิโลกรัม ทองคำแท่งหนึ่งหนักครึ่งกิโลกรัม มูลค่าไม่ได้มากอะไร (ความจริงของเหล่านี้เป็นชุดของใช้ที่มีการตกแต่งเพื่อนำไปใช้ไว้ในเทศกาลที่เกี่ยวกับพระบาอัล) โทษไม่น่าจะหนักถึงตายทั้งโคตร ไม่น่าทำให้อิสราเอลแพ้สงคราม เดือดร้อน 

  • คงแค่สารภาพบาป คืนของที่ยักยอก โดนปรับ โดนลงโทษ โดนขัง ก็น่าจะเพียงพอ แต่ความจริงไม่เป็นแบบที่อาคานคิด ผลบาปเสียหายรุนแรงมาก

  • ยชว7:5 ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันพวกเขาตายประมาณ 36 คน โดยขับไล่เขาจากประตูเมืองไปถึงเชบาริม ฆ่าเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ

  • ความสำเร็จก่อนหน้านั้น ไม่ได้ช่วยให้กองทัพอิสราเอลเวลานี้ให้พ้นจากความพ่ายแพ้ ความหดหู่ ความสิ้นหวัง หมดกำลังใจในการต่อสู้เวลานี้

  • ยชว7:24-26โยชูวากับอิสราเอลทั้งหมดจึงพาอาคานบุตรเศ-ราห์ พร้อมกับเงิน เสื้อคลุมตัวนั้น และทองแท่งนั้น ทั้งบุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขา ทุกสิ่งที่เขามีอยู่ และนำคนกับของทั้งหมดขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์ 25และโยชูวากล่าวว่า “ทำไมท่านจึงนำความทุกข์ยากมาให้พวกเรา? พระยาห์เวห์จะทรงนำความทุกข์ยากมาถึงท่านในวันนี้” แล้วอิสราเอลทั้งหมดจึงเอาหินขว้างเขาให้ตาย เผาพวกเขาด้วยไฟ และขว้างพวกเขาด้วยก้อนหิน 26แล้วเอาหินถมทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ยังอยู่จนทุกวันนี้ และพระยาห์เวห์ก็ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ เพราะฉะนั้นจนถึงทุกวันนี้ เขายังเรียกที่นั้นว่าหุบเขาอาโคร์

  • ชีวิตมีค่ามากกว่าทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ แล้วเราจะมีความโลภ ความอยากได้ โดยยอมตายเพื่อแลกสิ่งเหล่านี้มาครอบครองหรือ 

  • ตัวอย่างคนในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ ที่ตายเหมือนอาคาน คือ อานาเนีย กจ5:1-51แต่มีชายคนหนึ่งชื่ออานาเนียกับภรรยาชื่อสัปฟีราขายที่ดินของตน 2แล้วเก็บเงินค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้ ภรรยาของเขาก็รู้ด้วย อีกส่วนหนึ่งนั้นเขานำมาวางไว้ที่เท้าของพวกอัครทูต 3เปโตรจึงถามว่า “อานาเนีย ทำไมซาตานจึงควบคุมใจของเจ้าให้โกหกต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และทำให้เจ้าเก็บค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้?4เมื่อที่ดินยังอยู่ก็เป็นของเจ้าไม่ใช่หรือ? เมื่อขายแล้วเงินก็ยังอยู่ในสิทธิอำนาจของเจ้าไม่ใช่หรือ? มีอะไรทำให้ใจของเจ้าคิดทำอย่างนี้? เจ้าไม่ได้โกหกมนุษย์แต่โกหกพระเจ้า” 5เมื่ออานาเนียได้ยินคำเหล่านั้นก็ล้มลงและสิ้นใจ ทุกคนที่รู้เรื่องก็เกิดความเกรงกลัวอย่างยิ่ง 

  • แต่อาคานใจแข็งมาก ทำบาปแล้วคิดว่าไม่มีทางถูกจับได้ เขาไม่ยอมสารภาพความบาปผิดตั้งแต่แรก อาคานต้องรอการถูกจับได้อย่างคาหนังคาเขาเท่านั้น เขารับสารภาพโดยจำนนต่อพระเจ้า จึงได้นำส่งหลักฐานที่เขาทำผิด ไม่ได้เกิดจากการเสียใจต่อบาป

  • แต่พระเจ้ารู้ตั้งแต่แรก ยชว7:1ได้กล่าวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า อาคาน ทำผิด และอิสราเอลจะแพ้เมืองอัย แต่เขาไม่ได้ปรึกษา แสวงหาพระเจ้า ในเรื่องการรบเหมือนตอนยึดเมืองเยรีโค 

  • คนเรามักจะมีคำถาม ความสงสัยพระเจ้า เวลาเจอความผิดหวัง ความทุกข์ยาก ความลำบาก ความพ่ายแพ้ โยชูวาก็เช่นกัน

  • เมื่อโยชูวากลับใจใหม่แสวงหาพระเจ้า พระเจ้าแจ้งสาเหตุที่เขาแพ้ ยชว7:10-13 ฝ่ายพระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้นเถิด ทำไมเจ้าจึงซบหน้าลงอย่างนี้เล่า? 11อิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เขาได้ขโมยและหลอกลวง และได้เอาของนั้นรวมไว้กับข้าวของของตน 12เพราะฉะนั้นประชาชนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งที่ต้องทำลายถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า 13จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งที่ต้องทำลายถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”

  • มองภาพรวม พระเจ้าอยากให้โยชูวานำอิสราเอลยึดครองคานาอันให้สำเร็จ คนของพระเจ้าต้องร่วมมือ ปฎิบัติตาม จะสำเร็จหรือล้มเหลว ความบาปเป็นตัวแปร เพราะพระเจ้า ไม่สามารถอวยพรความบาปได้ จนกว่าบาปจะถูกชำระ

  • พระเจ้าบอกโยชูวาถึงวิธีการแก้ไขปัญหา

  • ยชว7:14-15 พอรุ่งเช้าพวกท่านจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละครอบครัว ครอบครัวใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน 15ใครถูกจับว่ามีสิ่งที่ต้องทำลายถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและทุกสิ่งที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ และเพราะเขาได้ทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล’ ”

  • โยชูวา ยึดเมืองอัยได้ในที่สุด ยชว8:28’ดังนี้แหละโยชูวาจึงเผาเมืองอัยเสีย ทำให้เป็นกองซากปรักหักพังอยู่เป็นนิตย์ เป็นที่ร้างเปล่ามาจนถึงทุกวันนี้

  • ในชีวิตจริง มันอาจจะไม่ง่ายขนาดนั้นในการพบสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงในชีวิตของเรา ทำไมปัญหาจึงเกิดขึ้นกับชีวิตเรา เกิดกับครอบครัวเรา เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก แต่เราก็ต้องแสวงหาพระเจ้าเพื่อพบคำตอบให้ได้อยู่ดี 

  • แต่การที่เราใกล้ชิดพระเจ้า รู้จักพระเจ้าอย่างดี ทำให้เราสามารถเข้าใจแผนการของพระเจ้า  และดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้าได้ 

  • ถ้าไม่อยากประมาท ต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ลก21:34-3634“จงระวังตัวให้ดี เกรงว่าใจของท่านจะเต็มล้นไปด้วยการเสเพล การเมาเหล้า และการห่วงกังวลถึงชีวิตนี้ แล้วเวลานั้นจะมาถึงท่านโดยไม่คาดฝัน 35เหมือนอย่างกับดัก เพราะว่าวันนั้นจะมาถึงทุกคนที่อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก 36แต่จงเฝ้าระวังอยู่ทุกเวลา จงอธิษฐานเพื่อพวกท่านจะมีกำลังรอดพ้นเหตุการณ์ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นนั้น และจะยืนอยู่ต่อหน้าบุตรมนุษย์ได้”

  • ดำเนินชีวิตไม่ประมาท รักษาความรอดที่พระเยซูคริสต์ ประทานให้เราโดยพระคุณของพระเจ้า รม5:20-21 เมื่อมีธรรมบัญญัติ ก็ทำให้มีการละเมิดธรรมบัญญัติปรากฏมากขึ้น แต่ที่ไหนมีบาปปรากฏมากขึ้น ที่นั้นพระคุณก็จะไพบูลย์ยิ่งขึ้น 21เพื่อว่าบาปได้ครอบงำทำให้ถึงความตายอย่างไร พระคุณก็ครอบงำด้วยความชอบธรรมให้ถึงชีวิตนิรันดร์ โดยทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราอย่างนั้น

  • ขอให้เลือกที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้เผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดของชีวิต หากดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาท เฝ้าระมัดระวัง และมีสติสัมปชัญญะ ปลายทางของชีวิต เราจะได้รับผลตอบแทนที่ดีจากพระเจ้า 

ตัวอย่าง หนุ่มเพิ่งพ้นคุก ยอมทิ้งโอกาสสัมภาษณ์งาน เพื่อช่วยชีวิตคนถูกรถชน..แม้ไม่รู้จักกันหนุ่มชาวเมืองบริดจ์พอร์ต รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐฯ วัย 32 ปีที่ชื่อ อารอน ทักเกอร์ คืออดีตนักโทษกลับใจที่กำลังมองหาทางเดินใหม่ในชีวิต เขาสมัครงานทันทีที่พ้นโทษ และเพียงแค่ 7 วันหลังจากได้ออกจากคุก ก็มีคนสนใจเรียกตัวเขาไปสัมภาษณ์งาน 

วันนั้นเป็นวันที่สำคัญมากสำหรับอารอนแต่เขากลับทิ้งมันไว้กลางทางเขาลงจากรถบัสที่กำลังนั่งไปสัมภาษณ์งานเพื่อช่วยชีวิตคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยรู้จัก  เรื่องราวของอารอนถูกนำมาเปิดเผยโดยซีบีเอสนิวส์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 โดยหลังจากที่อารอนได้รับการติดต่อมาให้ไปสัมภาษณ์งาน เขาก็ตื่นตั้งแต่ตีห้า อาบน้ำแต่งตัว สวมเสื้อผ้าที่ดูดีที่สุดแล้วนั่งรถบัสมุ่งหน้าไปยังร้านไดโนเสาร์ บาร์บีคิว เพื่อไปสัมภาษณ์งานกับผู้จัดการของร้าน เขาเคลิ้มหลับไประหว่างทางแต่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขามองออกไปนอกตัวรถเพื่อเช็กดูว่าเลยป้ายหรือไม่ แต่ก็ต้องพบกับภาพไม่คาดคิด 

อารอนเห็นรถยนต์คันหนึ่งขับพุ่งไปชนต้นไม้อย่างรุนแรงและพลิกคว่ำทำให้คนขับรถบัสจำต้องจอดรถตามอารอนตะโกนถามคนขับว่าจะลงไปช่วยหรือไม่คนขับก็ปฏิเสธกลับมาบอกว่าถ้าอารอนจะลงไปเขาก็ไม่ว่าแต่เขาจะไม่จอดรอเพราะจำเป็นต้องเดินรถไปตามเวลาที่กำหนดแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นอารอนกลับเลือกที่จะลงจากรถบัสโดยไม่ลังเลเขารีบวิ่งไปดูรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุมันพลิกคว่ำหงายท้องและมีควันโขมงเมื่ออารอนก้มลงมองใกล้ๆก็เห็นชายคนขับติดอยู่ในรถเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเลือดที่แย่ไปกว่านั้นก็คือรถเริ่มมีประกายไฟลุกไหม้แล้วอารอนปลดเข็มขัดนิรภัยคนขับรถออกแล้วลากตัวเขาออกมาจากรถมีพลเมืองดีหลายคนวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ  พนักงานร้านค้าใกล้เคียงก็วิ่งถือถังดับเพลิงมาช่วย”คุณจะไม่เป็นไรครอบครัวอยากเจอคุณมากๆลืมตาเอาไว้นะ” 

อารอนพูดกับคนขับเขามีบาดแผลที่ศีรษะและกำลังจะหมดสติอารอนจึงถอดเสื้อแล้วเอามาห้ามเลือดโชคดีมากที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมกู้ภัยมาถึงในเวลาอันรวดเร็วอารอนไม่ได้รีบไปไหนเขานั่งอยู่เป็นเพื่อนคนเจ็บรออยู่ตรงนั้นจนกระทั่งรถพยาบาลมาถึง”ตอนที่เจ้าหน้าที่เอาหน้ากากออกซิเจนครอบหน้าคนเจ็บผมคอยจับแขาเขาเอาไว้คอยปลอบให้เขาสงบผมแค่อยากทำให้มั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นอะไร” “

ตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องสัมภาษณ์งานเลยครับงานน่ะหาใหม่เมื่อไรก็ได้พลาดงานนี้ก็ไปหางานอื่นแต่ชีวิตคนมันมีแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น ” อารอนกล่าวถึงสิ่งที่เขาทำ 

เมื่อข่าวนี้กระจายออกไปสมาชิกในชุมชนต่างก็ประทับใจและในความกล้าหาญและเสียสละของชายหนุ่มผู้นี้พวกเขาจัดตั้งเพจขึ้นบนเว็บไซต์ระดมทุนGufundme เพื่อหาเงินให้อารอนนำไปก่อร่างสร้างตัว ซึ่งภายใน 1 วัน มีคนบริจาคให้ฮีโร่ผู้กล้าคนนี้มากถึง 16,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า ราว 539,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากนี้ แคมมี่ อีแวนส์ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษย์ชนแห่งชุมชนเวสต์พอยท์ ก็ได้ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือ โดยช่วยจัดการเรื่องเงิน ข้าวของ และเสื้อผ้าที่มีคนบริจาคให้อารอนและลูกชายตัวน้อย วัยเกือบ 2 ขวบของเขา  

ตอนนี้อารอนไม่ต้องห่วงเรื่องงานอีกต่อไปแล้วมีบริษัทห้างร้านหลายแห่งติดต่อขอรับเขาเข้าทำงานร้านตัดสูทในเมืองก็ยินดีตัดสูทให้เขาฟรีๆเพื่อที่เขาจะได้มั่นใจในการไปสัมภาษณ์งานในอนาคตอารอนเรียนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานมาแล้วเขาเป็นคนมีความรู้ติดตัวตอนที่เขาติดคุกเขาก็เป็นคนสอนหนังสือให้ผู้ต้องขังคนอื่นๆและตอนนี้เขาก็กำลังเดินทางใหม่มุ่งมั่นจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกชายได้เห็น

“ผมไม่มีเงินเลยครับแต่ตอนนี้มีคนเสนองานให้ผมเยอะผมอยากได้งานดีๆทำจะได้มีเงินเอาไว้เลี้ยงดูลูกชายผมติดคุก 3 สัปดาห์ก่อนเขาเกิดทางโรงพยาบาลโทร. มาหาผมในวันที่เขาลืมตาดูโลก  ผมได้ยินเสียงเขาร้องไห้จ้าและในวินาทีนั้นสิ่งที่ผมคิดก็คือผมจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง””ผมออกจากคุกมาโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวเลยผมเป็นคนตัวเปล่าอย่างแท้จริงแต่ผมรู้ดีครับว่าถ้าผมทำงานหนักสิ่งดีๆก็จะตามมาเอง” อารอนกล่าว 

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

อ้างอิง

สนใจติดต่อเรา หรือเชิญให้เทศนา ให้สอนหรือให้อบรม

www.facebook.com/FORWARD.CH.TH

Email: actsministry2017@gmail.com

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่