เทศนา คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(GLC:H.I.M.) อาทิตย์ที่ 6 ส.ค.2023
เทศนา คริสตจักรมหาชล(สถานนมัสการรามคำแหง) อาทิตย์ที่ 26 พ.ค. 2024
“สดด131:1-3 ความสงบพบในพระเจ้า”
1.เกิดจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า (2)
2.เกิดจากความหวังใจในพระเจ้า (3)
บทเพลงที่ใช้แห่ขึ้นของดาวิด
1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใจของข้าพระองค์มิได้เห่อเหิม และตาของข้าพระองค์มิได้ยโส ข้าพระองค์มิได้ไปยุ่งกับเรื่องใหญ่โต หรือเรื่องอัศจรรย์เกินตัวของข้าพระองค์
2แต่ข้าพระองค์ได้สงบและระงับจิตใจของข้าพระองค์ อย่างเด็กที่หย่านมแล้วสงบอยู่ที่อกมารดาของตน จิตใจของข้าพระองค์สงบอยู่ภายในข้าพระองค์ อย่างเด็กที่หย่านมแล้ว
3อิสราเอลเอ๋ย จงหวังในพระยาห์เวห์ ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์
ตัวอย่าง ( J.K. Laney, Marching Orders, p 50.) สมาคมกฏหมายระหว่างประเทศ ที่ลอนดอน กล่าวว่า 4,000 ปีที่ผ่านมา รัฐมีสันติสุขเพียง 268 ปี ทั้งๆที่มีสนธิสัญญาสันติที่ดีก็ตาม และใน3ศตวรรษที่ผ่านมา มีสงคราม 286 ครั้ง ที่เกิดขึ้นเฉพาะในทวีปยุโรป
เบื้องหลังพระธรรมตอนนี้
บทเพลงแห่ขึ้น
-
บทเพลงแห่ขึ้นของดาวิดไม่ได้มีการบันทึกในฉบับมาโซเรติค( Massoretic text:ฉบับดั้งเดิม) แต่ในฉบับแปลเซปทัวจิน (แปลภาษาฮีบรูเป็นภาษากรีกมีการเพิ่มเข้าไป) ข้อสงสัยของนักศาสนศาสตร์ จึงเป็นเรื่องช่วงเวลาที่อิสราเอลกลับมาจากการเป็นเชลย กับช่วงเวลาของดาวิดประพันธ์ซึ่งเกิดก่อนเหตุการณ์กลับมาเป็นเชลยหลายร้อยปี แต่นี่อาจเป็นบันทึกเฝ้าเดี่ยวของดาวิดในช่วงเริ่มต้นการเป็นกษัตริย์
-
คนอิสราเอลนำสดุดีตอนนี้มาร้องในบทเพลงแห่ขึ้น ก็สะท้อนให้เห็นถึงความถ่อมใจที่เขาต้องมีต่อพระเจ้า พวกเขาระลึกถึงพระคุณของพระเจ้าที่นำเขากลับมาจากการเป็นเชลย
-
เขาไปเป็นเชลยเพราะความหยิ่ง แต่เขากลับมาด้วยความถ่อมใจต่อพระเจ้า เหมือนเด็กเล็กๆคนหนึ่ง
-
ผู้เขียนสดุดีตอนนี้ สื่อสารให้เราเห็นสิ่งที่มีค่า ที่นำความสงบมาสู่จิตวิญญาณ คือ การมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า และการหวังใจในพระเจ้า
หัวข้อคำเทศนาในวันนี้คือ สดด131:1-3 ความสงบพบในพระเจ้า 2 ประการ
“สดด131:1-3 ความสงบพบในพระเจ้า“
1.เกิดจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า (2)
2แต่ข้าพระองค์ได้สงบและระงับจิตใจของข้าพระองค์ อย่างเด็กที่หย่านมแล้วสงบอยู่ที่อกมารดาของตน
-
เด็กหย่านม แสดงว่ากำลังโต เริ่มมีฟันแล้ว จะไม่ได้นอนดูดนมแม่ในอ้อมอก ในอ้อมกอดอันอบอุ่นอีกต่อไปแล้ว
-
เรื่องนี้ผู้เขียนใช้ภาพเปรียบเทียบความรู้สึกของเขา คงเศร้า เจ็บปวด ถ้าแม่ไม่กอด ไม่ปลอบใจ เขาทั้งคร่ำครวญ กลุ้มใจ สะอื้น แต่เขาจะรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ด้วยความรักของแม่ที่มีพลังปลอบประโลม อ้อมกอดคอยปลอบโยน
-
บางครั้งเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ เราก็ต้องรู้จักทำตัวเป็นเด็ก เราถึงสงบในอ้อมอกพระเจ้าได้
-
ข้อคิดเรื่องจิตใจอย่างเด็กที่หย่านม แบบฝ่ายวิญญาณ เช่น เรากลับใจใหม่อย่างง่ายๆ, เรารับการชำระล้างให้สะอาดให้บริสุทธิ์จากความบาป, เราอาจจะตายตั้งแต่เด็กไม่ได้เติบโต, โดนหลอก โดนทำร้าย โดนหาผลประโยชน์จากพวกลวงเด็ก, เราอาจจะต้องพึ่งพาผู้อื่น และอาจใช้ชีวิตยากลำบากถ้าเป็นเด็กกำพร้า เป็นต้น
2“จิตใจของข้าพระองค์สงบอยู่ภายในข้าพระองค์ อย่างเด็กที่หย่านมแล้ว”
-
แต่การที่เด็กได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ ได้รับความรักของแม่ สำคัญกว่าการได้ดื่มนม เพราะเมื่อเขาโตแล้วเขาหากินอย่างอื่นได้นอกจากนม แต่อ้อมกอดอันอบอุ่น ความรักของแม่ ไม่มีอาหารใดมาทดแทนได้
-
ความสงบเป็นปลายทาง ของความวางใจในพระเจ้า ความวางใจเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เหมือนเด็กเล็กๆที่อยู่ในอ้อมกอดของมารดา
-
พระเยซูคริสต์ สอนเรื่อง เปิดใจรับพระเจ้าแบบเด็ก
-
มธ18:3แล้วตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านไม่กลับใจและเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ก็จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เลย
-
ประยุกต์ใช้ แต่พอเด็กเติบโตมา เรียนเก่งกว่า รวยกว่า ดังกว่า มีอำนาจมากกว่าพ่อแม่ เขาอาจจะหยิ่ง ทำให้มีปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว
-
แต่ถ้าเด็ก หรือลูกเข้าใจพระคัมภีร์ตอนนี้ เขาดีกว่าพ่อแม่ก็ดีแล้ว แต่ไม่ได้หยิ่งกับพ่อแม่ จนทำให้ขาดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
-
ความสงบในที่นี้ น่าจะหมายถึง การวางใจในพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ เหมือนเราเป็นเด็กเล็กๆเราอาจทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่เมื่อเราอยู่ในอ้อมอกมารดา เรามีความสงบ มีความปลอดภัย ได้รับความรักความอบอุ่น
-
เด็กไม่ถูกรบกวนด้วยพายุ เพราะความทะเยอทะยาน ผู้เขียนสดุดีที่หย่านมจากความทะเยอทะยานทางโลกได้ เขาสามารถพักสงบ สามารถวางใจพระเจ้าได้
-
ความสงบ หมายถึง เราขี้เกียจ ไม่ทำอะไรเลย ไม่ขยันหมั่นเพียร ไม่สร้างเนื้อสร้างตัวหรือเปล่า เราสามารถทำต่อไปได้ด้วยความสงบ ด้วยความวางใจในพระเจ้า
1ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใจของข้าพระองค์มิได้เห่อเหิม และตาของข้าพระองค์มิได้ยโส ข้าพระองค์มิได้ไปยุ่งกับเรื่องใหญ่โต หรือเรื่องอัศจรรย์เกินตัวของข้าพระองค์
-
ผู้เขียนพยายามสื่อสารว่าเขาไม่ได้เป็นคนหยิ่งจองหอง ใช้คำว่า “ใจมิได้เห่อเหิม” กับ “ตา มิได้ยโส”
-
ไวยากรณ์บอกว่า ผู้เขียนพยายามควบคุมตนเองแบบนี้บ่อยๆในอดีต และมีผลต่อเนื่องมาจนถึงในปัจจุบัน (แสดงว่า เขาควบคุมตนเองสำหรับเรื่องท่าทีไม่ให้หยิ่งต่อพระเจ้า )
-
ความหยิ่งเป็นความภาคภูมิใจอยู่ภายในใจตนเอง แสดงออกทางแววตา ภาคภูมิใจในส่ิงที่ตนเองได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดจากความฉลาดความขยันขันแข็งในการทำให้สำเร็จ
-
จริงๆแล้วผู้เขียนเป็นคนสำคัญ ทำงานอะไรๆยิ่งใหญ่มากมาย น่าจะอวดได้ น่าจะภูมิในในความยิ่งใหญ่ ในความสำเร็จได้ แต่เขาไม่ได้เห็นว่าสิ่งนั้นสำคัญเท่ากับการมีความสงบที่ได้วางใจในพระเจ้า
-
เขาพยายามฝึกฝนตนเอง ให้ละทิ้งความทะเยอทะยาน และยอมรับบทบาทที่ไร้ความหมาย เป็นคนไม่สำคัญได้ เพื่อให้เขาไม่เป็นคนหยิ่ง แต่เป็นคนถ่อมใจต่อพระเจ้า
-
ดาวิดไม่ได้วางแผนตั้งใจจะเป็นกษัตริย์ โดยการกบฎต่อกษัตริย์ซาอูล แต่พระเจ้าเป็นคนเจิมแต่งตั้งดาวิด ผ่านซามูเอล หลังจากษัตริย์ซาอูลสิ้นพระชนม ดาวิดยังรอคอยอีก 7 ปี เพื่อให้รวมชาติอิสราเอลให้เป็นหนึ่งเดียว
-
2ซมอ6:21-22และดาวิดตรัสตอบมีคาลว่า “เป็นสิ่งที่ทำเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเลือกเราไว้แทนเสด็จพ่อของเจ้า และแทนราชวงศ์ทั้งสิ้นของพระองค์ เพื่อทรงแต่งตั้งให้เราเป็นผู้นำเหนือประชากรของพระยาห์เวห์ เหนืออิสราเอล เราจึงเริงโลดเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ 22เราจะยอมถูกดูหมิ่นยิ่งกว่านี้ และเราจะเป็นคนต่ำต้อยในสายตาเรา แต่พวกสาวใช้ที่เจ้าพูดถึงนั้น สำหรับพวกเขา เราจะเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติ”
-
แม้ดาวิดได้พยายามในการควบคุมตนเอง แต่เขาก็ได้เย่อหยิ่งหลังจากได้ปกครองเกิดผลอย่างยิ่งใหญ่ เขาให้นับประชากร 2ซมอ24:10,14-15
-
10เมื่อนับจำนวนประชาชนเสร็จแล้ว พระทัยของดาวิดก็ทรงสำนึกผิด และดาวิดกราบทูลต่อพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพระองค์ได้ทำบาปใหญ่หลวงในเรื่องซึ่งข้าพระองค์ได้ทำนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ แต่ขอพระองค์ทรงอภัยความบาปชั่วของผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทำอย่างโง่เขลายิ่งนัก” 14ดาวิดจึงตรัสกับกาดว่า “เราเป็นทุกข์มาก ขอให้พวกเราตกเข้าไปอยู่ในพระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ เพราะพระกรุณาของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก แต่ขออย่าให้เราตกเข้าไปในมือของมนุษย์เลย”5ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงทรงให้โรคระบาดเกิดขึ้นในอิสราเอล ตั้งแต่เวลาเช้าจนสิ้นเวลากำหนด และประชาชนที่ตายตั้งแต่เมืองดานถึงเบเออร์เชบามี 70,000 คน
2.เกิดจากความหวังใจในพระเจ้า (3)
3อิสราเอลเอ๋ย จงหวังในพระยาห์เวห์ ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์
-
แม้เรามีความสำเร็จมากมาย เราหากินเองได้ แต่ความสงบไม่ได้เกิดขึ้นจากความสำเร็จ ความสงบเกิดขึ้นจากความหวังใจในพระเจ้า
-
เวลาที่จิตใจเราไม่สงบ มีความกระวนกระวาย กลัวผลร้าย ผลเสียที่จะเกิดขึ้น จากความผิดพลาดของเรา หรือเกิดจากสถานการณ์ที่เราคาดเดาไม่ได้
-
รม15:13ขอพระเจ้าแห่งความหวังโปรดให้ท่านบริบูรณ์ด้วยความชื่นชมยินดี และสันติสุขในความเชื่อ เพื่อท่านจะได้เปี่ยมด้วยความหวังโดยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์
-
แต่เพราะเราไม่ได้หวังใจในพระเจ้า ไม่เชื่อว่าพระเจ้าปกป้องเราได้ ในส่วนที่เราควบคุมไม่ได้ แก้ไขไม่ได้หรือทำอะไรไม่ได้เหมือนกับที่เราตอนเป็นเด็กๆ แต่เรายังมีแม่ มีอ้อมกอดอันอุ่นใจของแม่ ทำให้เรามีความหวังใจ
-
ความหวังในในพระเจ้า ที่เราเชื่อเรารู้จักก็เช่นกัน เมื่อเราเผชิญสถานการณ์ที่เราทำอะไรไม่ได้เหมือนเด็กเล็กๆ ความหวังใจในพระเจ้า จะให้ช่วยเราผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้ เหมือนเด็กที่หวังใจในมารดาของเขา
-
แม้ในเวลาที่เราทำผิด เป็นเด็กดื้อ เด็กซน เด็กร้ายกาจ พระเจ้าพร้อมอภัยเมื่อเราจะไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่เติบโต แต่ยังสร้างปัญหาให้ตนเองเหมือนวัยเด็กที่ผ่านมา ในเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ
-
อิสราเอลเมื่อได้ใช้บทเหลงแห่ขึ้นนี้ หลังกลับจากการเป็นเชลย ทำให้เขาได้เรียนรู้ว่า ความหยิ่งต่อพระเจ้าทำให้เขาเป็นเชลย แต่ความถ่อมใจต่อพระเจ้านำความสงบมาให้เขา ทุกครั้งที่เขาระลึกถึงพระเจ้าในเทศกาลขอบพระคุณพระเจ้าเขาจะได้รับการเตือนใจ
-
ก่อนที่เด็กหย่านมจะไปโรงเรียน เตรียมตัวเข้าสู่สังคม เตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ เขาได้เรียนรู้จากมารดา รับการอบรมสั่งสอนในบ้านที่ไม่เหมือนที่โรงเรียน แต่เด็กๆจะเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ และนำไปดำเนินชีวิต
-
พ่อแม่ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกด้วยความเข้าใจ ต้องสอนเขาให้วางใจพระเจ้า สอนเขาให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า ผ่านชีวิตของท่าน ลูกจะเรียนรู้สิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านพูด
ตัวอย่าง (Moody Bible Institute, Today In The Word, June, 1988, p.33.) วารสาร The personnel ได้รายงานสถิติอันน่าทึ่งดังนี้ ตั้งแต่มีการเริ่มต้นบันทึกประวัติศาสตร์ พบว่าโลกมีช่วงเวลาแห่งสันติภาพน้อยกว่า 8% ของเวลาที่ได้ถูกบันทึก ในการศึกษานี้พบว่า 3,530 ปี ของประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ มีเพียง 286 ปีที่โลกมีช่วงเวลาแห่งสันติภาพ ยิ่งไปกว่านั้น มีสนธิสัญญาสันติภาพมากกว่า 8,000 ฉบับที่เขียนขึ้น ถูกฉีกทิ้ง
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
อ้างอิง
-
https://biblehub.com/commentaries/cambridge/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/pulpit/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/kad/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/ellicott/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/benson/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/mhc/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/barnes/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/jfb/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/tod/psalms/131.htm
-
https://biblehub.com/commentaries/gill/psalms/131.htm
-
https://bibleinoneyear.org/th/classic/326/
-
https://www.sermonillustrations.com/a-z/p/peace.htm