สอนโดย อ.ประยูร ลิมะหุตะเสรณี
คจ.มหาชล เชียงใหม่ สอนวันที่ ๑๔ ตค. ๒๐๑๗ Edit 2 ต.ค.2018
I.จุดประสงค์ของบทเรียน
๑. เพื่อนำความเข้าใจความจริงเกี่ยวกับชีวิตในการเป็นสาวกของคริสเตียนทุกคน และความรับผิดชอบในการเป็นผู้สร้างสาวกของเราทั้งหลายตามพระมหาบัญชาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า
สาวกเป็นชีวิต หมายความว่า อยู่ในสายเลือด ไม่ต้องมีใครสอนใครบอกก็ทำได้ ความบาปในชีวิตก็เหมือนกันไม่ต้องสอนก็ทำบาปเป็น การสร้างสาวกสัมพันธ์กับการอธิษฐาน เพราะถ้าทำบนพื้นฐานที่เราทำได้ เราจะไม่พึ่งพาพระเจ้า พระองค์จึงทรงให้งานใหญ่กว่าความสามารถ ใหญ่กว่างบประมาณ เพื่อให้พระเจ้าได้รับเกียรติ โมเสส รับงานใหญ่ เจรจากับฟาโรห์ ไม่ได้ใช้รถม้ารถรบ แต่ใช้คำพูดทั้งที่คุยกับแกะมาสี่สิบปี กิเดโอน 300 ชนะมีเดียนได้ ดาวิดชนะโกลิอัทได้
การสร้างสาวกน่าจะเริ่มทั้งคนที่รู้จัก ญาติ และคนไม่รู้จัก คจ.ควรเปิดกว้าง ให้โอกาสจัดงานเพื่อนำคนมารู้จักพระเจ้า ฮบ10:35 อย่าทิ้งความมั่นใจตนเอง หล่นหายได้มาจากตัวเราทำหล่นหายเอง ผู้สร้างสาวกต้องทำให้สาวกมั่นใจในตนเอง
๒. เพื่อเราจะสามารถทะลุทะลวงฝ่ายวิญญาณในชีวิตส่วนตัวด้านการอธิษฐานเผื่อผู้หลงหายเพื่อสร้างเขาให้เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ต่อไป
เนื่องจากสมาชิกมีประสบการณ์ในการนำคนมาหาพระเยซูคริสต์ไม่เหมือนกัน หรือบางคนอาจจะไม่มีประสบการณ์เลย เพราะไม่มีความมั่นใจในการแบ่งปันข่าวประเสริฐกับคนอื่น ทั้งต่อคนใกล้ชิดและคนแปลกหน้า ดังนั้นทางคริสตจักรควรจะจัดรายการพิเศษเพื่อสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่น ให้เกิดขึ้นเป็นระยะ (อาจจะจัดเป็นรายการเสริม เช่น การฟื้นฟู หรือ ค่ายพิเศษสั้นๆในหนึ่งวัน รวมทั้งนัดหมายให้มาพบปะกันเพื่อหนุนใจกันและกันเป็นครั้งเป็นคราวเป็นต้น)
๓.เพื่อเสริมสร้างทักษะในการสร้างสาวก
ให้ผู้เรียนเข้าใจความจริงว่า บทเรียนนี้เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่จะช่วยเหลือพวกท่านให้บรรลุเป้าหมายของพระเจ้าในชีวิตของพวกท่าน ไม่ใช่กำลังขอความช่วยเหลือ หรือขอความร่วมมือจากพวกท่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคริสตจักรหรือเป้าหมายการรับใช้พระเจ้าของผู้รับใช้เต็มเวลาในคริสตจักรนี้ และเป็นเครื่องมือเสริมสร้างทักษะให้ท่านสามารถทำส่วนที่เป็นความรับผิดชอบตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ ผ่านทางการเป็นพยานและการอธิษฐาน เพื่อการนำวิญญาณของผู้หลงหาย พร้อมทั้งการเลี้ยงดูจิตวิญญาณของผู้หลงหายที่บังเกิดใหม่ให้เจริญเติบโตขึ้นสู่การเป็นสาวกขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ใช่สาวกของผู้สร้าง
เพื่อเสริมสร้างทักษะการสร้างสาวก ใช้บ่อยๆ จะเพิ่มทักษะในการสร้างสาวก สำหรับผู้เชื่อแต่ละคน ไม่ใช่มารับการเพิ่มทักษะเพื่อทำงาน หรือทำพันธกิจของคริสตจักร. การสร้างสาวกสามารถทำตามพระมหาบัญชาได้ เพื่อการนำวิญญาณให้บังเกิดใหม่ สู่การเป็นสาวกพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่สาวกของผู้สร้าง
๔.เพื่อเป็นแรงจูงใจในการอุทิศตนเองเป็นผู้สร้างสาวกของคริสตจักรที่คงเส้นคงวาต่อไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ “ท่านทั้งหลายที่เป็นสมาชิกทุกระดับของคริสตจักร” เราต้องทำความเข้าใจให้ชัด เจนกันก่อนว่า บทเรียนนี้ไม่ใช่ความรู้อีกแขนงหนึ่งของแผนกคริสเตียนศึกษา แต่เป็นบทเรียนที่จัดขึ้นเพื่อช่วยพวกเราให้สามารถทำในสิ่งที่คริสเตียนทุกคนพึงจะทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซู ดังนั้น การอุทิศตนเพื่อเป็นผู้สร้างสาวกจึงเป็นบทสรุปของบทเรียนนี้
รักษาความคงเส้นคงวาในการสร้างสาวก ไม่ใช่การเพิ่มความรู้ในการสร้างสาวก การอุทิศตนจึงเป็นหัวใจสำคัญเพื่อการสร้างสาวก ไม่ใช่การเพิ่มความรู้สร้างสาวก แล้วไม่ได้ทำอะไร (อย่ามานั่งเรียนเพื่อจะฟังคำสอนเท่านั้น)
ตัวอย่าง เราทำในสิ่งที่เราเป็น ไม่ใช่ทำเพื่อเป็น นักฟุตบอลต้องฝึกจึงเป็นนักกีฬา สาวกเป็นก่อน จึงไปทำหน้าที่สาวก ตัวอย่างส่ิงที่ยากที่สุดของคนคือ เดินกับยืน ศพทำไม่ได้ รูปปั้นทำไม่ได้ คนขี่จักรยานเป็น ไม่ได้มาจากการนั่งเรียน แต่มาจากการไปขี่จักรยานเลย
ดังนั้น สิ่งที่ผู้เข้าอบรมทุกท่านควรจะทำอย่างยิ่งคือ
- เข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยการอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำทุกวัน และบันทึกการอ่านทุกครั้ง
- วางแผนการสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าอย่างน้อย ๓ คน
- จัดทำเนื้อหาในการเป็นพยาน หรือคำพยานส่วนตัว
- ลงมือปฏิบัติ คือไปเป็นพยานกับสามคนนั้น
II.สิ่งที่รองรับเรื่องนี้
๑. มีนิมิตหรือเป้าหมายของคริสตจักรที่สนับสนุนการสร้างสาวกชัดเจน
มธ28:19-20 สร้างสาวกจากคนไม่เชื่อ ไม่ใช่คนที่เชื่อแล้ว คต.เป็นสาวกแล้วแต่ยังไม่รู้หน้าที่ ยังไม่ได้รับผิดชอบหน้าที่การสร้างสาวก การเป็นสาวกมีความรับผิดชอบ กับของประทาน รับผิดชอบกับพระมหาบัญชา รับผิดชอบกับชุมชนพระเจ้า รับผิดชอบกับตัวเองโดยดำเนินชีวิตกับพระเจ้า
พระคัมภีร์เป็นอาหารทิพย์ของชีวิต มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าทุกคำ (มีฤทธิ์เดช) อ่านลวก อ่านเร็วไม่พบพระเจ้า ได้แต่ประวัติศาสตร์ ปรัชญา คำคม ได้เนื้อหา แต่ไม่ไร้สาระ พระดำริ จะไม่ได้ชีวิต ฤทธิ์เดชจากพระเจ้า ถ้าไม่กินก็ตายฝ่ายวิญญาณ ไม่โต
สดด119:18 อย่าซ่อนพระบัญญัติของพระองค์ หมายความว่า เรามองไม่เห็น ไม่เข้าใจ
ยน3:16 คนอ่านซ้ำอาจจะเบื่อ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก อ่านครั้งแรกอาจจะใช้เพื่อการประกาศ อ่านครั้งที่สอง เพราะว่าพระเจ้า ทำให้เราทำอะไรหลายๆอย่าง ในทางพระเจ้า อ่านครั้งที่สาม ทรงรัก เริ่มต้นเพื่อพระเจ้า และเพื่อความรักของพระเจ้า
๒.กำหนดโครงสร้างของการเลี้ยงดูในกลุ่มย่อย (รูปแบบ ตามความเหมาะสม เช่น ๑คนดูแล๓คน และคนที่ดูแล เป็นเครือข่าย
สามคนนี้ต้องเป็น๑ใน๓ที่ได้รับการดูแลจากใครบางคน และ๓คนที่ได้รับการดูแลนี้จะต้องได้รับการพัฒนาให้แต่ละคนสามารถที่จะเป็นผู้ดูแลคนอื่นตามโครงสร้าง ๑ดูแล๓ นี้ต่อๆไป เป็นต้น)
๓. คจ.ควรจะจัดหลักสูตรที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ทั้ง ๔ ประการ
ที่กล่าวมาข้างต้นโดยมีคู่มือหรือบทเรียนที่ครอบคลุมเนื้อหาตามหลักสูตร เพื่อต่อยอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นจากบทเรียนนี้ (ในระยะแรกต้องมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อการปรับปรุงทั้งหลักสูตรและบทเรียนให้เหมาะสมกับคริสตจักร)
ตัวอย่าง อ.ประยูร เล่าเรื่องพระเจ้าให้ลูกฟังทุกคืน ทำให้ลูกอยากไปเล่าให้คนอื่นฟัง
(ทั้งหมดนี้ควรจะพร้อมเพื่อรองรับผลที่เกิดจากการขับเคลื่อนของคริสตจักรในทิศทางดังกล่าว แต่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ อาจะเป็นเพียงคร่าวๆก็ยังได้ แล้วเคลื่อนไป ปรับปรุงไป แต่ต้องมีผู้รับผิดชอบ – ควรจะเป็นทีม)
III.รู้จักความจริงเกี่ยวกับตัวเรากับพระเจ้า
พระธรรม ๑ปต.๑:๑–๕ นี้เขียนไปถึงคริสเตียนที่กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆเนื่องจากการข่มเหงในสมัยนั้น คริสเตียนเหล่านี้เป็นผู้ถูกข่มเหงที่ต้องหลบหนีความตายไปตามที่ต่างๆ สิ่งที่น่าสังเกตในพระธรรมตอนนี้คือคำว่า .เลือก. พระเจ้าทรงเลือก พระคัมภีร์ตอนนี้ชี้ให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า พี่น้องคริสเตียนเหล่านี้เป็นผู้ที่ทรงกำหนดไว้แล้วและเราทั้งหลายในที่นี้ต่างก็เป็นคนของพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์เช่นกัน
ฉบับ1971 บอกว่า ผู้เชื่อเป็นคนของพระเจ้าผ่านทางพระเยซู ไม่มีใครเป็นคต.โดยบังเอิญ พระเจ้า เลือกโดยพระคุณไม่ใช่ความดีหรือความสามารถของเรา อย่าทำให้พระเจ้าผิดหวัง ดังนั้นสาวกเริ่มจากการถ่อมใจ กับพระเจ้า ก็เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกด้วยเช่นเดียวกัน คุณเคยนั่งลงคิดหรือไม่ว่าคนอย่างเรานี่นะที่พระเจ้าจะเลือกคำตอบคือ แน่นอน พระองค์ทรงเลือกท่านมาแล้ว
IV.ข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับการทรงเลือกของพระเจ้า
ก.พระเจ้าทรงเลือกเรา
เพราะเห็นคุณค่าที่แฝงอยู่ในชีวิตของเรา อ.ประยูรโดนปฎิเสธจากโรงเรียน และให้ไปทำงานมากกว่าเป็นผู้รับใช้ แต่สุดท้ายกลับไปเป็นผอ.โรงเรียนที่โดนไล่ มีลูกศิษย์ที่จบ จากคนไม่จบเช่นอาจารย์ เราไม่เห็นคุณค่าตนเอง คนอื่นย่ิงไม่เห็นใหญ่ แต่พระเจ้าเห็นคุณค่า
ข.พระเจ้าทรงเลือกเรา
พระเจ้าไม่ผิดพลาดแน่นอนในการเลือกเรา เพราะพระองค์ทรงสัพพัญญูไม่เคยผิดพลาด และทรงรอบรู้ และการที่พระองค์ทรงเลือกเรา แสดงว่า เราเป็นคนที่ใช้การได้ในสายพระเนตรของพระเจ้าจริงๆ
อย่าดำเนินชีวิตต่ำกว่าคุณค่าที่พระเจ้าให้ 1ปต1:2 ทรงลงทุนกับเราด้วยชีวิตของพระองค์ ซึ่งเราต้องรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ รักษาการชำระของพระเจ้า โดยความจริงของพระวจนะพระเจ้า ยน17:17
พระเจ้าทรงยืนยันคุณค่าของเราด้วย
(๑) ๑ปต.๑:๒ การชำระเราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
(๒) ๑ปต.๑:๒ ด้วยพระโลหิตพระเยซูคริสต์
(๓) ๑ปต.๑:๓ พระเจ้าให้เราบังเกิดใหม่
(๔) ๑ปต.๑:๓ พระเจ้าให้เรามีความหวังใจ ที่ยั่งยืน
(๕) ๑ปต.๑:๔ มีมรดกที่ไม่เปื่อยเน่า ไม่ร่วงโรย ไม่มีมลทิน
(๖) ๑ปต.๑:๕ ทรงคุ้มครองเราด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า
(๗) ๑คร. ๖:๑๙–๒๐. ลงทุนกับเราด้วยราคาสูงสุดที่พระองค์มี 1คร 6:19-20 พระเจ้าซื้อเราที่ราคาสูงสุด อย่าไปข้องแวะเรื่องบันเทิง ไร้สาระ
ค. จุดประสงค์ในการทรงเลือกของพระเจ้า พระเจ้าทรงเลือกเราเพื่อ
(๑) ๑ปต.๑:๑๔,๒๑ ให้เราเป็นบุตรที่เชื่อฟัง ด้วยความไว้วางใจในพระองค์
(๒) ๑ปต.๑:๑๔,๑๘ เพื่อยุติพฤติกรรมตามกิเลสตัณหาไร้สาระ พระเจ้าใส่ชีวิตใหม่ในดินก้อนเดิมที่มีกิเลสตัณหาควบคุมอยู่ แต่ชีวิตใหม่สามารถควบคุมกิเลส อวัยวะ โดยให้เห็นความเป็นสาวกได้ ทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าได้ ถวายเกียรติพระเจ้าได้
(๓) ๑ปต.๑:๑๕–๑๗ให้เราประพฤติตนให้บริสุทธิ์ทุกประการด้วยความยำเกรงพระเจ้า ตามมาตรฐานพระเจ้า เช่น คำสอนผิดเช่น คต.ทำบาปได้บ้างเพราะอยู่ในเนื้อหนัง หรือในความบาป ตัวอย่างเช่น ผิดทางเพศ เพราะการมีความสัมพันธ์กับพระองค์ไม่ใช่เป็นแบบความรัก เพราะถ้ารักจะไม่นอกใจ ไม่ทำผิดทางเพศ ไม่มีชู้แน่นอน วันสุดท้ายพระเยซูจะรับผู้เชื่อไปแต่งงาน ไม่มีเซ็กแม้แต่ในสมอง
(๕) ๑ปต.๑:๒๓ เลือกเราเพื่อดำเนินชีวิตตามลักษณะสายพันธ์ุใหม่ที่เป็นอมตะ (23) มนุษย์ถูกสร้างให้เป็นอมตะ แต่ทำบาปต้องตาย ดังนั้นพระเจ้าให้เป็นอมตะอีกครั้ง แสดงว่าไม่มีบาป บริสุทธิ์
(๖) ๑ปต.๒:๙ ประกาศพระบารมีคุณของพระเจ้า
(๗) ยน.๑๕:๑๖ให้ชีวิตเกิดผลอย่างถาวร สาวกที่เราสร้างจะเกิดผล สำเร็จ ไม่หลงหาย
(๘) ๒คร.๕:๑๗–๒๐ เพื่อเราจะได้เป็นฑูตของพระเยซูคริสต์ 1ปต1:22 เมื่อพวกท่านได้ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์แล้ว ด้วยการเชื่อฟังความจริง จนมีใจรักพี่น้องอย่างจริงใจ พวกท่านจงรักกันให้มากขึ้นด้วยน้ำใสใจจริง วิญญาณการเรียนรู้ที่ให้ทุกส่ิงสอนเราได้ ชีวิตเราถูกสร้างผ่านคนมากมาย ในแต่ละช่วงเวลา ไปคจ.ซ่อนไว้เต็มที่ อยู่บ้านเปิดเผยเต็มที่
V.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้างสาวกของคริสตจักรไทยในอดีต
จากพระธรรม มธ.๒๘:๑๙–๒๐ พระเยซูคริสต์ได้ทรงบัญชาให้สาวกทุกคนของพระองค์ออกไปสั่งสอนชนทุกชาติให้เป็นสาวกของพระองค์ ซึ่งพระบัญชานี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ปรากฏว่าคจ.ของพระเจ้าในประเทศ
ไทยที่ผ่านมากลับพบปัญหาจากพระบัญชานี้ ทำให้การประกาศของคริสตจักรไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
1.แยกเรื่องการสร้างสาวกออกจากการประกาศ
ผลที่เกิดขึ้น คจ.สร้างสาวกเพียงครึ่งเดียว แล้วแต่ครึ่งแรกหรือครึ่งหลัง หว่านแล้วติดตามผล
2.ยกเรื่องการสร้างสาวกและการประกาศไปที่ผู้รับใช้เต็มเวลา
ผลที่เกิดขึ้น คือ ได้ผลน้อยมาก เพราะศบ.มีงานเยอะมาก และจัดเรื่องการสร้างสาวกประกาศ เป็นเรื่องสุดท้าย และไม่มีของประทาน
3.โยงเรื่องการสร้างสาวกและการประกาศเข้ากับเรื่องของประทาน
ผลที่เกิดขึ้น คือ เมื่อไม่มีของประทาน ก็เลยไม่ทำ บางคนก็หว่านใบปลิวอย่างเดียว ไม่เก็บเกี่ยว พระคัมภีร์ให้หว่าน โดยหวังจะเก็บเกี่ยว โดยให้เกิดผลในดินดี เกิดผลร้อยเท่า หกสิบเท่า ตัวอย่าง แม่คลอดลูกออกมา ยังไงก็เลี้ยงได้ การประกาศและสร้างสาวกก็เช่นกัน ถ้าคลอดฝ่ายวิญญาณออกมาได้ ก็เลี้ยงได้ พระเยซูตั้งเป้าที่เป็นสาวกไม่ใช่เชื่อกี่คน
บางคนก็เข้าใจว่า ตนเองมีของประทานในการหว่าน (แจกใบปลิว)ไม่มีของประทานในการเลี้ยงดู ก็หว่านอย่างเดียว ไม่เคยคิดเก็บเกี่ยว เพราะไม่มีของประทาน ถึงแม้ชาวนาที่มีการศึกษาน้อยที่สุดก็ยังฉลาดกว่าคริสเตียนประเภทนี้เลยจริงๆ เพราะไม่มีชาวนาคนไหนที่หว่านแล้วไม่คิดที่จะเก็บเกี่ยว
VI.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้างสาวกในพระคัมภีร์
๑. การสร้างสาวกกับการประกาศเป็นเรื่องเดียวกัน (มธ.๒๘:๑๙–๒๐)
๒. การสร้างสาวกเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้เชื่อทุกคน
ก. ผู้เชื่อทุกคนเป็นปุโรหิต คนของพระเจ้าที่มีหน้าที่ต่อพระเจ้า(๑ปต.๒:๙)
ข. ผู้เชื่อทุกคนเป็นทูตของพระคริสต์ (๒คร.๕:๑๗–๑๙)
ค. ผู้เชื่อทุกคนมีความรับผิดชอบในเรื่องการประกาศและการสร้างสาวก ควบคู่กับการรับใช้ตามของประทานที่แต่ละคนมี หรือตามภาระใจเป็นลำดับถัดมา
๓. การประกาศมีความเกี่ยวข้องกับของประทานแต่เป็นคนละเรื่องกับของประทาน พระคัมภีร์สำแดงแนวทางในการประกาศและการสร้างสาวกแก่คริสเตียนทุกคนที่มีของประทานทุกชนิด หมายความว่าการสร้างสาวกมันอยู่ในสายเลือด อันดรูว์เจอพระเยซูก็ชวนเปโตร บางคนเป็นพยานกับครอบครัวแต่ไปทะเลาะเอาชนะกัน แต่ด้วยความรักอยากให้เขารอด ต้องรับผิดชอบในเรื่อง การสร้างสาวก และมีแรงจูงใจประกาศตามแนวทางที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ในพระคัมภีร์ ควบคู่ไปกับการรับใช้พระเจ้ามาจากพระมหาบัญชา ของประทานและภาระใจ.
VII.แนวทางทั่วๆไปในการสร้างสาวกและการประกาศ
(๑) เป็นเกลือ (มธ.๕:๑๓)
การสร้างสาวกที่เป็นแบบอย่าง เกลือมีพลัง เพราะเค็ม คือ คุณสมบัติเด่นของเกลือ ถ้าไม่มีรสเค็มก็ไม่ใช่เกลือ คนมาเหยียบย่ำเพราะชีวิตไม่ดี เช่น เห็นแก่ตัว คต.ต้องเห็นทุกคนที่เดือดร้อนเป็นเหมือนพระเจ้า ทำดีกับเขา ช่วยเขา เหมือนทำให้กับพระเจ้า
อฟ2:8-9,10 ถูกสร้างเพื่อให้ประกอบการดี หลายคนลืม ยุคพระเยซูอยู่กับคนที่เดือดร้อน เพื่อช่วยเหลือเขา
(๒) เป็นแสงสว่าง (มธ.๕:๑๔–๑๖)
เราเป็นแสงสว่าง มธ5:13-16 ความดีในเรื่องศิลธรรม มีอิทธิพลเหนือความมืด
ยน1:1-5 ชีวิตเก่าไม่สามารถมีชัยเหนือบาปได้ พระเจ้าเป็นความสว่าง ความมืดจะกลัว
1ยน1:5-7 พระองค์เป็นความสว่างในพระองค์ไม่มีความมืดเลย เมื่อเราดำเนินสนิทกับพระองค์ ความมืดไม่มีชัยเหนือความบาปในเราได้
ลก5:5-10 อย่ากลัวเลย ท่านจะจับคนดั่งจับปลา หมายความว่า พระเยซูจะสร้างเขาเป็นสาวก เปโตรไม่ได้ชื่นชมพระพร แต่ชื่นชมผู้อวยพร เขาเสียสละ และทิ้งบาปชีวิตเก่า ชีวิตใหม่พระเจ้าจะให้ พระพรที่พระเจ้าให้เป็นของดีสูงส่ง ให้ใฝ่สูง ไม่ใช่ใฝ่ต่ำ ตัวอย่าง พระเยซูเป็นพยานกับชาวสะมาเรีย นางมีคำถามเป็นยิวมายุ่งกับเขาทำไป ไม่มีถังแล้วจะตักน้ำได้อย่างไร สุดท้ายเขาก็ขอน้ำจากพระเยซู นางที่ไม่มีใครเชื่อถือกลับพาคนมาเชื่อพระเจ้าได้ เราเป็นแค่เครื่องมือของพระเจ้า เราไม่ได้เป็นเจ้าของงาน
(๓) บอก – เล่า (๑พศด.๑๖:๒๔, ๑ปต.๒:๙)
เล่าถึงพระสิริของของพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ท่ามกลางทุกชนชาติ ไม่ต้องไปเถียงว่าพระเจ้าของใครดีกว่า เพราะไม่มีใครชอบ พระคำของพระเจ้ามีฤทธิ์เดชทำให้คนกลับใจใหม่
(๔) สอน (มธ.๒๘:๒๐)
(๕) เสริม หรือสร้าง(๑ธส.๕:๑๑)
หนุนใจเสริมสร้าง ไม่ใช่แค่พี่เลี้ยงคนเดียว หลายๆคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างที่พระเจ้าใช้พี่เลี้ยงมาเป็นพระพร ผู้ใหญ่จริงพี่งพาคนอื่น และคนอื่นต้องพึ่งพาเรา เหมือนเราเป็นอวัยวะที่ต้องพึ่งพากันและกัน พระเจ้าเรียกเรามาเพื่อให้เห็นพระลักษณะของพระเจ้า แต่ภาพลักษณ์ของพระเจ้าจะปรากฎอย่างเด่นชัดไม่ได้ ถ้าคต.ไม่ทำส่ิงเหล่านี้ร่วมกัน ไม่ใช่งานปัจเจกบุคคล แต่เป็นงานภาพรวมร่วมกัน เช่น ชนชาติที่เปี่ยมด้วยความรัก แต่ละคนจึงไม่ได้ทำงานตามลำพัง แต่ต้องร่วมมือกับสาวกคนอื่นๆ อย่างใกล้ชิด
คจ.ของพระเจ้าต้องสะท้อนสง่าราศีของพระคริสต์ต่อชนชาวโลกอย่างมีประสิทธิภาพร่วมกันอย่างคริสตจักร. ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น และเราต้องทำเรื่องนี้อย่างเสมอต้นเสมอปลายทุกๆวัน คจ.จึงไม่มีสันโดษ หรือปัจเจกชน เพราะพระเจ้าสอนให้รักคนอื่นเหมือนรักตนเอง
ใช้เงินพัฒนาชีวิต ในการสร้างสาวก ฉลาดในการหา และต้องฉลาดในการใช้ ขบวนการดำเนินชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสาวก
1คร4:1-2 เราเป็นคนรับใช้ที่ไว้วางใจได้ โดยเฉพาะในการสอน ตัวอย่างอ.ประยูร แอบดูกับเปิดเผยต่อภายนอกก็เหมือนกัน ไม่ต้องรอให้พร้อมก่อนสร้างสาวก ทำไปเรียนรู้ไป พัฒนาไปได้
คำถามเพื่อการอภิปราย
1.การที่เรานำใบปลิวไปเดินแจกตามบ้าน หรือตามชุมชนต่างๆถือว่าได้ทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์เจ้าแล้วใช่หรือไม่ เพราะอะไร
2.ท่านคิดว่าท่านต้องได้รับการเสริมสร้างและรับการสนับสนุนด้านใดบ้างที่จะช่วยให้ท่านสามารถทำหน้า ที่สร้างสาวกได้อย่างเต็มรูปแบบ (ต้องได้คำตอบทุกคน แต่อาจจะไม่สามารถแบ่งปันได้ทุกคนขึ้นอยู่กับเวลา)
3.ให้ทุกคนช่วยการวางแผนเพื่อรับการเสริมสร้างตามรายการในข้อ2 (ไม่ว่าจะมีกี่ประการก็ตาม) เรียงตามลำดับความ สำคัญ ของแต่ละคน ซึ่งจะแตกต่างกัน และกำหนดว่ามีประการใดที่สามารถรับการเสริมสร้างภายในคริสตจักร และประการใดที่จะรับการเสริมสร้างจากสถาบันอื่นๆนอกคริสตจักร
4.ท่านต้องได้รับเสริมสร้างจนครบถ้วนก่อนแล้วจึงจะทำหน้าที่สร้างสาวกได้ใช่หรือไม่
VIII.แผนการสร้างสาวก
ขั้นตอน |
ธรรมชาติ |
คำอธิบาย |
จิตวิญญาณ |
คำอธิบาย |
๑ |
การตัดสินใจ |
พ่อแม่ตัดสินใจที่จะมีลูก |
การตั้งเป้าหมาย |
ตัดสินใจว่าจะจดจ่ออยู่กับ คน๓คนอย่างเฉพาะเจาะจงที่จะนำเขามาถึงความรอดของพระเยซูคริสต์ |
๒ |
การปฏิสนธิ |
พ่อแม่ผูกพันเป็นหนึ่งเดียว กันในความรักก่อให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นในครรภ์ของแม่ |
การอธิษฐานวิงวอน |
ทุ่มเทอธิษฐานเพื่อ ๓ คนนั้นอย่างจริงจัง |
๓ |
พัฒนาการ |
พ่อแม่ทะนุถนอมทารกที่อยู่ในครรภ์ เจริญเติบโต และเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ทารกจะคลอดออกมาดูโลก |
การสร้างความสัมพันธ์ |
สร้างความสัมพันธ์กับบุคคลเป้าหมาย ด้วยความรักของพระคริสต์เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ |
๔ |
เกิด |
ทารกเกิดมาในโลก |
การตัดสินใจ |
นำบุคคลเป้าหมายให้มาถึงการบังเกิดใหม่ โดยการอธิษฐานต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของเขา |
๕ |
ก่อนวัยเรียน |
ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด อดทน และสม่ำเสมอในทุกๆด้าน |
การเลี้ยงดู |
เลี้ยงดู และเสริมสร้างผู้เชื่อใหม่ให้เจริญเติบโตขึ้นตามกระบวน การที่ได้กำหนดไว้ |
คำอธิบาย ขั้นตอนการสร้างสาวก 5 ขั้นตอน จากการปฎิสนธิของมนุษย์
1.ตัดสินใจเองบนพื้นฐานของความเข้าใจที่แท้จริงในพระเจ้า
เหมือนกับพ่อแม่ที่ตัดสินใจที่จะมีลูก ด้านจิตวิญญาณก็ตั้งเป้าหมายจะไปหาใคร คนคุ้นเคยหรือคนแปลกหน้า โดยเฉพาะสามคนที่เราต้องการสร้างสาวกอย่างเจาะจง
2.การปฎิสนธิ เด็กเกิดจากความรักของพ่อแม่
เราต้องอธิษฐานเผื่อให้คนสามคนนั้นด้วยความรัก เป็นสงครามฝ่ายวิญญาณที่มารช่วงชิงคนให้อยู่รอด
3.พัฒนาการ ทารกในครรภ์
ฝ่ายวิญญาณต้องสร้างความสัมพันธ์ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจให้เชื่อพระเยซู ยน4: พระเยซูไปหาหญิงสะมาเรีย แม้ปัญหาเชื้อชาติยิวกับสะมาเรีย แต่พระเยซูก็สร้างความสัมพันธ์ ให้เห็นความหวังดีความรัก ให้พระวิญญาณนำไม่ใช่หลักการทางจิตวิทยา ตัวอย่างอ.ประยูร เป็นพยานกับเด็ก 11 ขวบ ไม่ยอมไหว้รูปเคารพ แม่หาเบอร์โทรมาด่า ปัญญาของพระองค์อยู่ที่ไหน ขอให้ช่วยด้วย เพื่อถวายเกียรติ สุดท้ายแม่ลูกได้ไปคจ.ด้วยกัน ความสว่างเอาชนะความมืดได้ ความรักเป็นความสว่าง
4.การเกิดของทารก
ฝ่ายวิญญาณให้เขาต้อนรับพระเยซูกลับใจใหม่จากบาป ให้บังเกิดใหม่
5.เด็กก่อนวัยเรียน
การเลี้ยงดูต้องเกิดขึ้น สำหรับผู้เชื่อใหม่ ให้การบ้าน ให้พระคัมภีร์ เพื่อให้เขาศึกษา และถูกสร้าง ให้มาคจ.และให้เขาสร้างสาวกคนต่อไป การที่เราปฎิบัติต่อคนอื่นด้วยความดี และความรัก เป็นลูกของความสว่าง เป็นการสร้างสาวก ฟังด้วยความตั้งใจ ให้ผู้พูดรู้ว่า รู้สึกอะไร ต้องการอะไร คิดยังไง เข้าใจยังไง ตั้งคำถาม สำคัญสำหรับพระเจ้าแสดงว่าสำคัญสำหรับเรา
IX.สร้างความสัมพันธ์
ชื่อ ……………………………………………………………………… ประวัติบุคคล: เกี่ยวกับสถานะภาพที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ชีวิตสมรส …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. อาชีพ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. สุขภาพ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สังคม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ปัญหาอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. |
ความต้องการเฉพาะหน้าของเขา ………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… |
ประเมินการตอบสนอง ๑. ต่อต้าน …………………………………………………………………….. ๒. เฉยๆ …………………………………………………………………….. ๓. เริ่มสนใจ …………………………………………………………………. ๔. สนใจมากจริงๆ ………………………………………………………. ๕. ตัดสินใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. |
อุปสรรค์ หรือสิ่งกีดขวาง (ทั้งภายนอกและภายใน) |
หัวข้ออธิษฐาน: เรื่อง ……………………………………………………………………………………… รับคำตอบวันที่ ……………………………………………….. เรื่อง ……………………………………………………………………………………… รับคำตอบวันที่ ……………………………………………….. เรื่อง ……………………………………………………………………………………… รับคำตอบวันที่ ……………………………………………….. เรื่อง ……………………………………………………………………………………… รับคำตอบวันที่ ……………………………………………….. เรื่อง ……………………………………………………………………………………… รับคำตอบวันที่ ……………………………………………….. |
X.เตรียมคำพยานส่วนตัว
๑.ชีวิตของท่านก่อนมาพบพระเยซูเป็นอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๒.ท่านมาพบพระเยซูได้อย่างไร และด้วยแรงจูงใจอะไร ………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๓.มีอุปสรรค์อะไรที่ทำให้ท่านลังเลในการตัดสินใจ ………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๔.ท่านก้าวข้ามอุปสรรค์เหล่านั้นได้อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
๕.ชีวิตของท่านหลังจากพบพระเยซูแล้วเป็นอย่างไร ……………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
หมายเหตุ. ตรวจสอบคำพยาน ๑.) ควรจบใน ๓–๕ นาที ๒.) ชัดเจนและเข้าใจง่าย ๓.) ตรงประเด็น ๔.) เป็นกันเอง
XI. S A L T I N G :
S = say something |
ทักทาย เพื่อสร้างสะพาน (ละลายพฤติกรรม) อวยพร ชมเชย ฯลฯ. |
A = ask |
ถามด้วยความเป็นมิตร (แสดงความห่วงใย สุขภาพ ธุรกิจการค้า การศึกษา) เพื่อให้เขารู้สึกว่า เขามีความสำคัญต่อท่าน |
L = listen |
ฟังด้วยความสนใจจริงๆ (หู – ตา – ใจ )การฟังเป็น เสน่ห์ ฟังเพื่อเข้าใจความคิด, ความรู้สึก, และความต้องการ ของผู้พูด ฟังให้ได้ยินสิ่งที่ไม่ได้พูด (เพื่อจะช่วยเขาได้) |
T = transfer |
ควบคุมการสนทนาให้เป็นไปตามที่ต้องการ เปลี่ยนเนื้อหาคำสนทนา จากอะไรก็ตามไปสู่ข่าวประเสริฐของพระเยซู |
I = introduce |
แนะนำพระเยซูให้ชัดเจนมากขึ้น |
N = notice |
สังเกตดูการตอบสนอง ตลอดเวลา |
G = guide |
นำเขาสู่การตัดสินใจ กลับใจใหม่และต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยของเขา |
XII.หลักการต่างๆในการเป็นพยานเพื่อก้าวสู่การสร้างสาวก
1.ผู้หลงหาย เป็นคนมีความสำคัญสำหรับพระเจ้า ดังนั้นผู้หลงหายจึงมีความสำคัญสำหรับข้าพเจ้าด้วย
ยน. ๓:๑๖
มก. ๑๐:๑๕
โยนา ๔:๑๐–๑๑
2.พระเจ้าทรงแสดงความรักต่อผู้หลงหายแบบไม่มีเงื่อนไข ข้าพเจ้าจึงแสดงความรักแบบเดียวกันแก่ผู้หลงหาย
รม. ๕:๘
3.การตอบสนอง ต่อความเดือดร้อนของผู้หลงหายจะเปิดดวงตาให้เขาเห็นความรักของพระเจ้า และยอมเปิดใจสู่ความจริงของพระองค์และรับความรอดจากพระองค์
ลก.๑๙:๑–๖
4.ผู้หลงหายจำเป็นต้องรู้ว่าท่านห่วงไยเขาจริงๆ ก่อนที่เขาจะฟังเรา
ยน.๒:๑–๑๑
5.ผู้หลงหายจะไม่ได้รับความรอดจนกว่าจะเข้าใจกระบวนการไถ่บาปของพระเยซูคริสต์ที่สัมพันธ์กับการกลับใจใหม่และ ดำเนินชีวิตใหม่ของผู้หลงหาย
ยน.๓:๑๗–๑๘
ยน.๕:๒๔
6.เราได้รับพระบัญชาจากพระเจ้าให้สร้างสาวกไม่ใช่เพิ่มจำนวนผู้เชื่อให้มากขึ้น
มธ.๒๘:๑๙–๒๐
๒ทธ.๒:๒
7.พระเยซูคริสต์ทรงมอบสิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณให้เราสร้างสาวก แต่การสร้างสาวกเป็นสิ่งที่พระเจ้าทำ เราแค่ร่วมมือกับพระองค์ด้วยการอธิษฐาน
มธ.๑๖:๑๙
8.คำอธิษฐานวิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อผู้หลงหาย เป็นสงครามฝ่ายวิญญาณ
อฟ.๒:๑๒
๒คร.๔:๔
๒ทธ.๒:๒๖
9.การร่วมใจกันอธิษฐานเป็นการทวีคูณฤทธานุภาพของพระเจ้า
มธ.๑๘:๑๘–๒๐
10.การอธิษฐานเพื่อความรอดของผู้หลงหายเป็นสิ่งที่อยู่ในน้ำพระทัยของพระเจ้า
๒ปต.๓:๙
๑ทธ.๒:๔
11.ความเชื่อเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการอธิษฐาน
มก.๑๑:๒๒–๒๔
ฮบ.๑๑:๖
12.ในการอธิษฐานต้อง ยืนหยัดอย่างมั่นคงจนกว่าจะได้รับคำตอบ
ดนอ.๑๐:๑๒–๑๓
13.ในการอธิษฐานเพื่อต่อสู้กับวิญญาณชั่วต้องอดอาหารด้วย
มก.๙:๒๙
ตัวอย่างการอธิษฐาน
1.อธิษฐานในขั้นตอนการตั้งเป้าหมาย เป็นการเปิดสวรรค์
2.อธิษฐานในขั้นตอนการอธิษฐานวิงวอน เป็นการสร้างสัมพันธ์เป็นการเปิดประตู
3.อธิษฐานในขั้นตอนสร้างความสัมพันธ์ เป็นการเลี้ยงดู
4.อธิษฐานในขั้นตอนการตัดสินใจ เป็นการสร้างเขาให้เติบโต
5.อธิษฐานในขั้นตอนการเลี้ยงดู เป็นการสะท้อน ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเราเป็นไง กับคนรอบข้างเป็นไง กับคจ.เป็นไง
ปราศจากพระเจ้า เราทำไม่ได้
ปราศจากเรา พระเจ้าไม่ทำ
XIII.การจัดการกับความคิดที่ผิดเพี้ยนบางประการ
ความคิดผิด : ข้าพเจ้าไม่มีเวลาจริงๆ พระเจ้าทรงเข้าใจข้าพเจ้าดีว่า ข้าพเจ้ายุ่งมากจริงๆ จึงไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาเป็นผู้สร้างสาวกได้
ความจริง : พระเจ้าทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ และพระองค์ทรงปรารถนาที่จะใช้ข้าพเจ้าเป็นสื่อในการนำข่าวประเสริฐไปถึงชนทุกชาติ เพื่อเสริมสร้างคนเหล่านั้นให้เป็นสาวกของพระองค์
ความคิดผิด : พระเจ้าไม่ได้เรียกข้าพเจ้าให้เป็นผู้สร้างสาวก
ความจริง : พระเจ้าทรงมอบพันธกิจการสร้างสาวกไว้กับผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ทุกคน
ความคิดผิด : ชีวิตของข้าพเจ้ายังไม่ดีพอที่พระเจ้าจะใช้ในพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
ความจริง : พระเจ้าทรงประสงค์ที่จะทำงานผ่านผู้เชื่อทุกคน ท่านไม่จำเป็นต้องดีพร้อมทุกเรื่อง สิ่งสำคัญคืออยู่ที่ความยินยอมพร้อมใจ และหัวใจที่เชื่อฟังต่างหาก
ความคิดผิด : ข้าพเจ้าเป็นคริสเตียนใหม่ ยังไม่สามารถเป็นผู้สร้างสาวกได้
ความจริง : พระเจ้าทรงทำงานผ่านคริสเตียนใหม่ให้เกิดผลได้เป็นอย่างดี
ความคิดผิด : ข้าพเจ้าไม่มีของประทานในการสร้างสาวก
ความจริง : การสร้างสาวกเป็นหน้าที่ของคริสเตียนทุกคน และของคริสเตียนที่มีของประทานทุกชนิด ความรับผิดชอบด้านการสร้างสาวก จึงเป็นกิจที่ต้องทำคู่กับการรับใช้พระเจ้าตามของประทานของแต่ละคนที่แตกต่างกัน
ความคิดผิด : ข้าพเจ้าได้ผ่านการอบรม และเรียนรู้บทเรียนการสร้างสาวก เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะสามารถเป็นผู้สร้างสาวกได้ดีกว่าคนอื่น และเกิดผลมากกว่าคนอื่น
ความจริง : ความสำเร็จในการสร้างสาวกนั้นเป็นผลจากคุณภาพชีวิตด้านจิต
วิญญาณที่ดี และดำเนินชีวิตตามแนวทาง ของพระคริสตธรรมคัมภีร์ บวกกับ
ความช่วยเหลือของพระเจ้าในการทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์
ทำให้ข้าพเจ้าเป็นผู้สร้างสาวกที่มีประสิทธิภาพ ส่วนทักษะนั้นจะแตกต่างกันตาม
ขนาดของประสบการณ์ของเราแต่ละคน
XIV.หัวใจที่สำคัญในการสร้างสาวกคือ ความสัมพันธ์ที่ดี ๔ ด้าน
1.ความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า
ตัววัด : ใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าเป็นประจำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
มีชีวิตที่สำแดงถึงการเจริญเติบโตอย่างชัดเจน มีความเข้าใจฝ่ายจิตวิญญาณที่ลึกซึ้ง
2.ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
ตัววัด : มีความกระตือรือร้นในการยื่นมือให้ความร่วมมือกับกิจกรรม
ต่างๆที่ตนเองสามารถทำได้ด้วยความยินดี
3.ความสัมพันธ์ที่ดีกับคริสตจักร
ตัววัด : รับบัพติศมาในน้ำและมีความรักและผูกพันกับคริสตจักร เป็นสมาชิกที่ซื่อสัตย์ในด้านการถวายและการรับใช้ ให้ความร่วมมือกับคณะธรรมกิจและผู้นำของคริสตจักรเป็นอย่างดี
4.ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่เป็นเป้าหมาย
ตัววัด : มีความกระตือรือร้นในการเยี่ยมเยียน
รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในเรื่องการสร้างสาวกอธิษฐานเผื่อคนที่เป็นเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ
สาวกที่ดีคือสาวกที่มีความสัมพันธ์ที่ดีทั้ง ๔ ประการเพื่อชีวิตจะสามารถต่อยอดในการสร้างสาวกที่ดีของพระเยซูรุ่นต่อไป
เนื้อหาของบทเรียนนี้ เรียบเรียงมาจากบทเรียนของ
Global Leadership Network Training Resource
สนใจติดต่อเรา
www.facebook.com/FORWARD.CH.TH
Email: actsministry2017@gmail.com