อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี
เทศนาบ่าย อาทิตย์ที่ 14 ต.ค.2018
คริสตจักรกรุงไทย
“เพราะฉะนั้น จงระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าเหมือนคนไร้ปัญญา แต่ให้เหมือนคนมีปัญญา 16จงใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ เพราะว่าทุกวันนี้เป็นยุคสมัยที่ชั่วร้าย 17เพราะเหตุนี้ อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ชีวิตคริสเตียนเราในยุคนี้มีความสนใจเรื่อง
“ความสนุก ความสบาย ความสะดวก และสตางค์“
แต่ในยุคของพระเยซู คริสเตียนในเวลานั้นไม่ได้มีความสะดวกสบาย อ.เปาโลอยู่อย่างสะดวกสบายก่อนมาเชื่อพระเยซู ซึ่งพอเชื่อพระเยซู แล้วชีวิตท่านลำบากแน่นอน เพราะท่านเริ่มต้นจากความยากลำบากตั้งแต่เชื่อพระเยซูครั้งแรก ท่านตกจากหลังม้า ที่แน่ๆตกจากม้าเจ็บแน่นอน ขั้นที่สอง คือ ท่านต้องตาบอด แล้วหลังจากนั้นท่านก็ลำบากตลอดชีวิตของท่าน เช่น ท่านต้อง ติดคุก ท่านเจอเรือแตกถึงสามครั้ง ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับผม ผมคิดว่าพระเจ้าให้เรือแตกแสดงว่าพระเจ้าไม่ใช้เราแล้ว
พันธกิจไม่สำเร็จ ผมก็คงเลิกรับใช้พระเจ้าไปแล้ว
แต่อ.เปาโลไม่ได้ทำอย่างนั้น ยังคงรับใช้พระเจ้าต่อไป
ความคิดของเรา หรือการคิดของเราต้องกลับไปที่พื้นฐานของพระคัมภีร์จริงๆ เราที่อยู่ในยุคปัจจุบันนี้ควรจะต้องคิดได้ดีกว่าคนในยุคนั้น เพราะเขาไม่มีความสนุก ไม่มีความสบาย ไม่ได้รับความสะดวก และไม่มีสตางค์มากด้วย อ.เปาโลความจริงท่านก็ไม่ได้มีเงินมาก ท่านก็ต้องไปหาเงินก่อนเป็นทุนในการรับใช้ เมื่อมีเงินแล้วท่านก็ไปดำเนินงานของพระเจ้า วันนี้เราจะทำได้ดีกว่าอ.เปาโลไหม เราจะทำได้ไหม
ตัวอย่างพ่อแม่อาจารย์ประยูรไม่ได้เชื่อพระเจ้า พอรู้ว่าอาจารย์มาเชื่อพระเจ้าก็ไม่พอใจ อาจารย์ไม่รู้ว่าการมาเป็นคริสเตียนต้องดำเนินชีวิตอย่างไร ท่านรู้แต่ว่าท่านเชื่อพระเยซูเท่านั้น แต่การดำเนินชีวิตของท่านเหมือนเดิม เมื่อผ่านไปสามปี ท่านได้เจอผู้รับใช้ผู้มาจุดประกาย ทำให้ตัดสินใจใหม่ เพราะเมื่อตอนเชื่อพระเจ้าครั้งแรกนั้น เป็นเพราะท่านไม่อยากตกนรก เป็นแค่เรื่องศาสนาเท่านั้น แต่ความจริงชีวิตคริสเตียนเป็นการดำเนินชีวิตอย่างที่พระคัมภีร์ ท่านจึงเปลี่ยนแปลงใหม่
คำว่า“ระวังการดำเนินชีวิตให้ดี” เหมือนสองเด้ง
เพราะต้องระวัง และระวังให้ดี แปลความว่า เราทั้งหลายประมาทในการดำเนินชีวิตไม่ได้ เราพลาดไม่ได้ อย่าให้เหมือนคนโง่ คำนี้มาจากพระเจ้าแน่นอน เพราะครอบคลุมพื้นที่ความคิดของชีวิตทั้งหมด แต่ให้เหมือนคนฉลาด คนโง่จะทำตัวให้เหมือนคนฉลาดไม่ได้ แต่คนฉลาดแกล้งทำโง่ได้เหมือนมาก
ข้อ 17 “เพราะเหตุนี้ อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงเข้าใจว่าอะไรคือพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ขอให้เราดำเนินชีวิตโดยมีความเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า เข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้า
เป็นความเข้าใจจริงๆไม่ใช่เข้าใจด้วยความรู้
เข้าใจจริงๆแล้วจะเห็นคุณค่าน้ำพระทัยพระเจ้า จะทำให้เราเห็นภาพของพระเยซูบนไม้กางเขน พระเยซูเป็นแม่แบบในการทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า เวลาที่อธิษฐานพระเยซูก็ขอให้เป็นไปตามพระทัยพระเจ้า ไม่ใช่ตามใจตนเองในสวนเกทเสมาเน
คริสเตียนตอบสนองชีวิตต่อพระเจ้าโดยการเห็นคุณค่าน้ำพระทัยพระเจ้าที่ดีต่อเรา เราต้องมีสำนึกในเรื่องพระคุณพระเจ้านี้ ต้องระวังในการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าให้เป็นเหมือนคนโง่ แต่ให้เหมือนคนฉลาด เพราะนี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
1ปต2:21”เพราะพระเจ้าทรงเรียกพวกท่านเพื่อจุดประสงค์นี้ เพราะว่าพระคริสต์ทรงทนทุกข์เพื่อพวกท่าน พระองค์ทรงวางแบบอย่างแก่พวกท่าน เพื่อท่านจะได้ดำเนินตามรอยพระบาทของพระองค์”
เห็นไหมว่าพระเจ้าทรงเรียกท่านเพื่อจุดประสงค์นี้ พระเยซูทนทุกข์เพื่อท่าน วางแบบอย่างเพื่อท่านจะเดินตามรอยพระบาทของพระเยซู การดำเนินชีวิตในแต่ละวันของท่านก็เพื่อจุดประสงค์ของพระเจ้า พระเยซูเป็นแบบอย่างให้กับเรา คนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างกับเด็ก
อฟ5:1 “เพราะฉะนั้นจงเลียนแบบของพระเจ้าให้สมกับเป็นบุตรที่รักของพระองค์” คริสเตียนจึงดำเนินชีวิตตามแบบของพระเยซู จุดประสงค์เพื่อให้สมกับการเป็นบุตรที่รักของพระองค์
1คร11:1 “ท่านทั้งหลายจงทำตามแบบอย่างของข้าพเจ้า เหมือนกับที่ข้าพเจ้าทำตามแบบอย่างของพระคริสต์”
เราจะเห็นความต่อเนื่องเรื่องการดำเนินชีวิตที่ฉลาด คือ ดำเนินชีวิตโดยทำตามแบบพระคริสต์ เพื่อให้คนอื่นเลียนแบบพระคริสต์ตามอย่างชีวิตของเรา
ดังนั้นคนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างกับเด็ก ในพระคัมภีร์บอกว่าผู้ใหญ่ต้องเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศ การสร้างสาวก การแบบอย่างของการดำเนินชีวิตที่มีบรรยากาศเป็นผู้สร้างสาวก เมื่อเด็กได้ยิน เด็กได้ฟัง ว่าพ่อแม่ทำอย่างไรให้คนมาเชื่อพระเจ้า เด็กๆจะได้ยินและซึมซับ ชีวิตของอาจารย์ประยูรมีความมุ่งมั่นในเรื่องนี้ เรื่องที่เราคุยกันจะเข้าไปในหูเด็กและเขาจะฟัง ดังนั้นเราต้องระมัดระวังในการดำเนินชีวิต เพราะจะมีคนใกล้ชิดเราเลียนแบบ แม้ว่าเราไม่อยากให้เขาเลียนแบบ ดังนั้นเราอยากให้เขาเลียนแบบอะไร เราต้องระมัดระวัง
ตัวอย่าง อาจารย์ประยูรท่านพัฒนาตนเองเพื่อจะรับใช้พระเจ้า เมื่อไปโรงเรียนพระคัมภีร์ โรงเรียนรับลักษณะชีวิตอาจารย์ไม่ได้ ท่านถูกไล่ออก ไปเรียนที่สองก็มีปัญหา ก็โดนไล่ออก รวม 3 โรงเรียน 4 ครั้ง(มีโรงเรียนหนึ่งไล่ท่านออกสองครั้ง) หลังจากนั้นท่านได้ไปเรียนพระคัมภีร์ที่แคนนาดา บทเรียนที่ได้จากการไปต่างประเทศ คือ ท่านมีเพื่อนกินเหล้ามาสารภาพบาปว่า ลูกชายของเขามาเจอเขา เพราะเดินตามรอยเท้าเขาที่จมอยู่ในหิมะ เมื่อตอนเขาไปเข้าร้านเหล้า เมื่อเขาถามว่าลูกชายมาทำอะไร ลูกชายตอบว่า “แค่เดินตามรอยเท้าพ่อเท่านั้น” ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาไม่กล้าแตะเหล้าอีกเลย ลูกอาจารย์เรียนพระคัมภีร์อยู่ต่างประเทศ โทรมาถามว่าพระคัมภีร์ตอนนั้น ตอนนี้ สอนว่าอย่างไร อาจารย์มีความประทับใจบางครั้งนำ้ตาไหล ที่เห็นลูกตามแบบอย่างอาจารย์
เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี การเป็นคริสเตียนคือ การดำเนินชีวิตอีกค่านิยมตามพระคัมภีร์ ตามพระเจ้า เป็นค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงดีแล้ว เพื่อให้คนในโลกที่ยังไม่ได้รู้จักพระเจ้าได้เห็นการดำเนินชีวิต ที่เป็นการ
ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์
ฟป3:17 “พี่น้องทั้งหลาย จงร่วมกันทำตามแบบอย่างของข้าพเจ้า ท่านมีเราเป็นตัวอย่างแล้ว จงสังเกตดูคนเหล่านั้นที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างที่เราวางไว้ให้พวกท่านนั้น” เมื่อเราดำเนินตามพระเยซูแล้ว เราจึงเริ่มชักชวนคนอื่นให้ดำเนินตามแบบพระเยซู เราต้องเลียนแบบทำตามแบบพระเยซู พ่อแม่มีอิทธิพลต่อลูก ลูกจะตอบสนอง พ่อแม่ต้องพาเขามาคริสตจักร พาเขามาร่วมกิจกรรม เพื่อให้พระเจ้ามีอิทธิพลผ่านพ่อแม่ ไปถึงลูกๆ พระองค์ประทานสิทธิอำนาจให้พ่อแม่ และลูกควรอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจนั้น เพื่อให้เขาสามารถต่อต้านค่านิยมของโลกเมื่อเขาอยู่ในโลกให้ได้ ให้เขาสามารถต่อต้านความไม่ถูกต้องได้ เพื่อเขาจะเป็นแบบ
ยก5:10 “พี่น้องทั้งหลาย จงเอาอย่างการทนทุกข์และการอดทนของบรรดาผู้เผยพระวจนะซึ่งกล่าวในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า” จงเอาอย่างผู้เผยพระวจนะ ที่อดทนตามแบบผู้รับใช้พระเจ้า
1ทธ4:12 “อย่าให้ใครหมิ่นประมาทความอ่อนวัยของท่าน แต่จงเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้เชื่อ ทั้งในด้านวาจาและการประพฤติ ทั้งในด้านความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์ ” อย่าให้ผู้ใดหมิ่นประมาท แต่เป็นแบบอย่างแก่ผู้เชื่อทั้งปวง
1ปต5:2-3 “ จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน [โดยเอาใจใส่ดูแล] ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ [ตามพระประสงค์ของพระเจ้า] ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่งของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น 3และไม่เป็นเหมือนผู้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขี่ผู้ที่อยู่ในความดูแล แต่ให้เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น”
ดังนั้นการเลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าต้องเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่การใช้อำนาจบาตรใหญ่ แต่ให้เราดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง เราเลี้ยงแกะของพระเจ้าด้วยการเป็นแม่แบบที่ดี การเป็นแบบที่ดีไม่ใช่เพียงแค่สั่ง หรือสอน ที่ดี แต่เป็นความกล้าหาญให้คนอื่นเลียนแบบตามชีวิตของเราได้
ท้าทายคนอื่นให้เลียนแบบการดำเนินชีวิตได้