ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมวินิจฉัย คือ เรียนรู้ที่จะยำเกรงพระเจ้า รักษาคำพูดกับพระเจ้า มีความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า
เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมผู้วินิจฉัยแล้ว ควรมีความระมัดระวังการดำเนินชีวิต ยำเกรงพระเจ้า สัตย์ซื่อกับพระเจ้า ยินดีตอบสนองต่อพระวจนะของพระเจ้าแม้ตนเองจะเสียประโยชน์ หรือไม่ถูกใจเราเอง แต่ยินดีเสียสละ
29แล้วพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็สถิตกับเยฟธาห์ ท่านจึงเดินผ่านกิเลอาดและมนัสเสห์และผ่านมิสปาห์แห่งกิเลอาด และจากมิสปาห์แห่งกิเลอาดท่านเดินผ่านไปยังคนอัมโมน 30และเยฟธาห์บนต่อพระยาห์เวห์ว่า “ถ้าพระองค์ทรงมอบคนอัมโมนไว้ในมือของข้าพระองค์จริงๆ แล้ว 31คนใดที่ออกมาจากประตูบ้านของข้าพระองค์เพื่อต้อนรับข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์มีชัยกลับมาจากคนอัมโมนนั้น คนนั้นจะเป็นของของพระยาห์เวห์ และข้าพระองค์จะถวายคนนั้นเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว” 32แล้วเยฟธาห์จึงยกข้ามไปต่อสู้กับคนอัมโมน และพระยาห์เวห์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน 33และท่านได้ประหารพวกเขาจากเมืองอาโรเออร์จนถึงที่ใกล้ๆ เมืองมินนิทรวม 20 เมือง และไกลไปจนถึงอาเบลเค-รามิม ผู้คนล้มตายมาก คนอัมโมนถูกปราบจนราบคาบต่อหน้าคนอิสราเอล
บุตรหญิงของเยฟธาห์
34แล้วเยฟธาห์ก็กลับมาบ้านที่มิสปาห์ นี่แน่ะ บุตรหญิงของท่านถือรำมะนาเต้นโลดออกมาต้อนรับท่าน เธอเป็นบุตรหญิงคนเดียว นอกจากบุตรหญิงคนนี้ท่านไม่มีบุตรชายและบุตรหญิงเลย 35และเมื่อท่านเห็นเธอแล้ว ท่านก็ฉีกเสื้อผ้าของท่าน กล่าวว่า “โอ ลูกเอ๋ย เจ้าทำให้พ่อแย่แล้ว เพราะเจ้าเป็นเหตุให้พ่อทุกข์มาก เพราะพ่อได้อ้าปากบนต่อพระยาห์เวห์ไว้ และจะคืนคำก็ไม่ได้” 36เธอจึงพูดกับบิดาว่า “คุณพ่อ เมื่อท่านอ้าปากบนต่อพระยาห์เวห์ไว้อย่างไร ขอให้ท่านทำกับลูกอย่างนั้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์ได้ทรงแก้แค้นคนอัมโมนผู้เป็นศัตรูเพื่อท่านแล้ว” 37และเธอพูดกับบิดาของเธอว่า “ลูกขอสิ่งหนึ่งคือ ขอให้ลูกอยู่ตามลำพังสักสองเดือน ลูกจะได้ไปยังภูเขา ร้องไห้คร่ำครวญถึงความเป็นพรหมจารีของลูกร่วมกับเพื่อนๆ ของลูก” 38ท่านจึงตอบว่า “ไปเถิด” และท่านก็ปล่อยเธอไปสองเดือน เธอก็ออกไปกับเพื่อนๆ ของเธอแล้วร้องไห้คร่ำครวญถึงความเป็นพรหมจารีของเธอ 39อยู่มาเมื่อครบสองเดือนแล้ว เธอก็กลับมาหาบิดาของเธอ และท่านก็ทำกับเธอตามที่ได้บนไว้ เธอยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายใดเลย 40และก็เป็นธรรมเนียมในอิสราเอลที่บุตรหญิงของอิสราเอลจะไปร้องไห้ไว้ทุกข์ให้บุตรหญิงของเยฟธาห์คนกิเลอาดปีละสี่วัน
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
A : Attitude
เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?
ศึกสงครามที่เยฟธาห์ต้องไปรบกับคนอัมโมน เป็นปัญหาที่เกินกำลังของเขา เขาจึงขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า และยินดีที่จะมอบถวายทุกสิ่งแด่พระเจ้าเพื่อขอบพระคุณที่พระเจ้าจะช่วยเหลือให้มีชัยชนะสงคราม
พระเจ้าไม่ได้บังคับเขาให้บนบาน หรือให้เขาชนะเพื่อต้องการสิ่งของที่เขามานำถวาย ตัวเยฟธาห์เองต่างหากที่เห็นว่าควรขอบคุณพระเจ้าที่ประทานชัยชนะ ด้วยการมอบคนที่บ้านของเขาเอง จากครอบครัวของเขาเอง เป็นเครื่องเผาบูชาทั้งตัวแด่พระเจ้า แสดงว่าคนในครอบครัวของเขาต้องตาย ไม่ว่าจะเป็นการพูดโดยไม่ทันคิดหรือเป็นความตั้งใจจริงๆที่จะให้เป็นเช่นนั้น แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องคือ คนที่ต้องถูกเผาถวาย จะตัดสินใจอย่างไร
ลนต27:28-29 “แต่สิ่งใดที่ถวายขาดแด่พระยาห์เวห์ เป็นสิ่งที่เขามีอยู่ ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ หรือที่ดินอันเป็นมรดกตกแก่เขา จะขายหรือไถ่ไม่ได้เลย เพราะสิ่งที่มอบถวายแล้ว เป็นของถวายที่บริสุทธิ์ที่สุดแด่พระยาห์เวห์ 29แม้แต่มนุษย์ที่ถูกมอบถวายแล้ว ก็ไถ่ถอนไม่ได้ ผู้นั้นต้องตาย
C : Christ in focus
เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?
พระเจ้าให้พระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียว มาเพื่อตายไถ่บาปคนเป็นอันมาก คนทุกยุคทุกสมัยได้รับการยกโทษเพราะการตายของพระเยซูคริสต์ พระองค์ยินดีเชื่อฟังพระบิดาและทำตามด้วยความตั้งใจ ด้วยความเต็มใจ แบกรับบาปของคนไว้ด้วยความตายของพระองค์ นี่เป็นการเสียสละเพื่อคนอื่น
T : Transformation
เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?
ระมัดระวังที่จะยำเกรงพระเจ้า สัตย์ซื่อกับพระเจ้า ไม่บนบานกับพระเจ้าโดยไม่คิดจะทำตาม หรือไม่เอาชีวิตของคนอื่นมาบนบาน เพื่อประโยชน์ของชีวิตเรา
เรียนรู้ที่จะเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อพระเจ้า เหมือนที่พระเยซูคริสต์สละชีวิตพระองค์เองเพื่อยกโทษความบาปผิดของเรา บุตรหญิงคนเดียวของเยฟธาห์(เสียดายที่พระคัมภีร์ไม่ได้บันทึกชื่อของนาง) ยอมเสียสละเพื่อไม่ให้บิดาผิดคำบนบาน หรือผิดสัญญากับพระเจ้า
กดว30:2เมื่อชายคนไหนบนไว้กับพระยาห์เวห์ หรือสาบานผูกมัดตัวเองด้วยคำสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อย่าให้เขาเสียวาจา เขาจะต้องทำตามคำทุกคำที่ออกจากปากของเขา
S : Serve
เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?