ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม1 เปโตร คือ การทนทุกข์โดยมีความคิดอย่างเดียวกันกับพระคริสต์
เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม1 เปโตรแล้ว ไม่ดำเนินชีวิตไปตามค่านิยมของโลก ปรัชญาของโลก แต่ให้มีความคิดอย่างเดียวกันกับพระคริสต์
1ดังนั้น โดยเหตุที่พระคริสต์ได้ทรงทนทุกข์ทางพระกายแล้ว พวกท่านก็จงติดอาวุธตัวเองโดยมีความคิดเดียวกันกับพระองค์ เพราะว่าผู้ที่ทนทุกข์ทางกายก็เลิกข้องเกี่ยวกับบาปอีกต่อไป 2เพื่อจะไม่ดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ในโลกตามตัณหาของมนุษย์ แต่ตามพระประสงค์ของพระเจ้า
3จงให้เวลาที่ผ่านไปแล้วนั้น เพียงพอสำหรับการทำสิ่งที่คนต่างชาติชอบกระทำ คือการปล่อยตัวตามราคะตัณหา ตามใจปรารถนาชั่ว การเมาเหล้าองุ่น การเลี้ยงกันอย่างถึงใจ การกินเหล้าวุ่นวายกัน และการไหว้รูปเคารพอันน่ารังเกียจ 4พวกเขาแปลกใจที่เดี๋ยวนี้พวกท่านไม่ได้ร่วมสำมะเลเทเมาอย่างเดียวกับพวกเขา และพวกเขาก็กล่าวร้ายพวกท่าน 5คนเหล่านั้นจะต้องให้การต่อพระองค์ ผู้พร้อมแล้วที่จะทรงพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย 6ด้วยเหตุนี้เอง ข่าวประเสริฐจึงได้ประกาศแม้แก่คนตาย เพื่อพวกเขาจะมีชีวิตทางจิตวิญญาณตามอย่างพระเจ้า แม้ว่าพวกเขาถูกพิพากษาเหมือนอย่างมนุษย์ปุถุชน
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
A : Attitude
เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?
ถ้าเรามีความคิดอย่างเดียวกันกับพระคริสต์ คือ พระองค์ทนทุกข์เพื่อไถ่บาปให้กับผู้อื่น ไม่ใช่ทนทุกข์เพราะบาปของพระองค์เอง
บาปทำให้เรารับการลงโทษ ดังนั้นเราก็ควรเลิกเกี่ยวข้องกับบาปอีกต่อไป(3) เพราะบาปไม่มีประโยชน์อะไรในการดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้นเราไม่ดำเนินชีวิตตามตัณหาเนื้อหนังความบาปอีกต่อไป แต่ตามพระประสงค์ของพระเจ้า(2)
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินชีวิตเช่นนี้ หรือมีความคิดเห็นต่างกับพระคริสต์ กล่าวร้ายพระคริสต์และคนของพระคริสต์(4) พวกเขาจะถูกพิพากษาในวันสุดท้าย(5)
C : Christ in focus
เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?
ข่าวประเสริฐถูกประกาศไปแม้กับคนตาย (6) ซึ่งคนตายในที่นี้น่าจะมาจากข้อ(19) คือ คนตายตั้งแต่ยุคโนอาห์มาถึงเวลาที่พระเยซูสิ้นพระชนม์
เพราะหากตีความเนื้อหาตอนนี้ว่า “ประกาศกับคนตายได้จนถึงทุกวันนี้” จะมีผลทำให้คนที่ยังมีชีวิตในเวลานี้ไม่ต้องกลับใจใหม่จากบาปเชื่อวางใจพระเยซูก็ได้ รอให้ตายก่อนค่อยไปเชื่อพระเจ้าก็ได้
ความจริง คือ ในวันนั้นที่เราตายเพราะความบาปของเรานั้น วิญญาณเราอาจกลับใจใหม่ไม่ได้แล้ว เหมือนพวกผีวิญญาณชั่ว หรือฑูตสวรรค์ที่ไม่มีใครล่อลวงมันให้ทำบาป พวกมันทำบาปด้วยการตัดสินใจเอง แตกต่างจากมนุษย์ที่ทำบาปเพราะถูกล่อลวง
พระเยซูสอนว่าหากได้ทุกสิ่งในโลกนี้แต่เสียชีวิตไปจะมีประโยชน์อะไร แสดงว่าสิ่งที่มีค่า คือ ชีวิตฝ่ายวิญญาณ ซึ่งจะคงอยู่เป็นนิรันดร์ เริ่มจากการกลับใจใหม่จากบาป เชื่อวางใจในพระคริสต์
มก8:34-38พระองค์จึงทรงเรียกฝูงชนกับพวกสาวกให้เข้ามา แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าใครต้องการจะตามเรามา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา 35เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่ใครยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐ คนนั้นจะได้ชีวิตรอด 36เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไรถ้าได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน 37คนนั้นจะเอาอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา 38ใครมีความละอายเพราะเราและคำสอนของเรา ในยุคที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและอธรรมนี้ บุตรมนุษย์ก็จะมีความละอายเพราะคนนั้นด้วย เมื่อพระองค์จะเสด็จมาด้วยพระรัศมีของพระบิดาพร้อมกับพวกทูตสวรรค์บริสุทธิ์”
T : Transformation
เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?
ก่อนมาเชื่อพระเจ้าเป็นเวลาที่เราทำบาปมามากพอแล้ว หลังจากเชื่อพระเจ้าแล้วไม่ควรกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกต่อไป อย่าปรารถนาในการดำเนินชีวิตตามปรัชญาค่านิยมของโลก
แต่ให้มีความคิดอย่างเดียวกันกับพระคริสต์ ยินดีทนทุกข์เพื่อผู้อื่น ดีกว่ามีความสุขเพราะทำบาป ให้มีความยำเกรงพระเจ้า ดำเนินชีวิตไม่ประมาทในเรื่องการพิพากษาของพระเจ้า
อย่าไปลุ้นเรื่องความรอดในวันที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งเราไม่มีอะไรจะมารับประกันได้ว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นไปแบบที่เราคิดมนุษย์มีความรู้เรื่องชีวิตหลังความตายน้อยมาก
อย่าเสี่ยงตายโดยไม่มีความมั่นใจในชีวิตหลังความตายเลย แต่ให้เรามีความมั่นใจในเรื่องความรอดในทุกๆวันที่เรามีชีวิตดีกว่า
S : Serve
เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?