ฟื้นฟูคริสตจักรไทยสมัครเชียงราย 11-13 ตุลาคม 2017 สอนโดย อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี
สอนครั้งที่7 บ่ายวันที่ 13 ต.ค.2017
2คร5:18-19 สิ่งทั้งหมดนี้เกิดจากพระเจ้า ผู้ทรงให้เราคืนดีกับพระองค์โดยทางพระเยซูคริสต์ และประทานพันธกิจในเรื่องการคืนดีนี้แก่เรา 19คือพระเจ้าทรงให้โลกนี้คืนดีกับพระองค์โดยพระคริสต์ ไม่ทรงถือโทษในความผิดของพวกเขา และทรงมอบเรื่องราวการคืนดีนี้ให้เราประกาศ
ยน15:6-11 ผลที่เกิดจากสัมพันธ์ที่สนิทสนม
ข้อ 6 ทำหน้าที่ทูตของพระเจ้าประสบความสำเร็จอย่างสูง
ข้อ 7 ได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้า ผ่านการอธิษฐาน หลายครั้งเราขอพระเจ้าในเรื่องที่ไม่ใช่ฐานะทูตเลย หลายครั้งเราก็อธิษฐานตามค่านิยมของโลก เช่น ขออาคารหลังใหม่ แต่ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัย แต่จริงๆพระคัมภีร์บอกว่าขอส่ิงใดที่เราปรารถนาก็จะได้ส่ิงนั้น ตัวอย่าง อ.ประยูรเกิดผลมาก ด้วยการดำเนินชีวิต เริ่มรับใช้จาก 20 คน มาเป็นพันคน ได้พัฒนาผู้รับใช้และคจ.มากมาย ทั้งที่เรียนพระคัมภีร์ไม่จบ
ส่วนใหญ่คต.สนใจแค่รับพระพร แต่จริงๆพระเจ้าคาดหวังให้เราเกิดผลมากๆ พระเจ้าตรัสแล้วให้เกิด แต่เราได้ยินไหม
2คร5:18-19 เราต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นฑูตของพระเจ้า เมื่อมนุษย์ทำบาป ทำให้เราเข้าใกล้พระเจ้าไม่ได้ เราจะตาย ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะทำลายบาป
เอวาอาดัมก็ต้องหลบหน้าพระเจ้า โมเสสขอดูหน้าพระเจ้า พระองค์บอกว่าถ้าเห็นหน้าเราแล้วจะตาย(20) แต่คำขอที่เป็นที่โปรดปรานพระเจ้าให้
อพย33:12-23 คต.มีโอกาสที่จะกลับมาสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างลึกซึ้งได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมนุษย์มาสัมพันธ์กับพระเจ้าไม่ได้
พระเจ้าให้ฐานะฑูตเพื่อประกาศเรื่องการคืนดีด้วยสิทธิอำนาจ พระเจ้าสนับสนุนเรา มธ28:18-20 สิทธิอำนาจทั้งหลาย ทรงมอบไว้กับเรา เพื่อนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของพระเจ้า
1.ต้องรู้จักฐานะที่แท้จริงของตนเอง
เราเป็นทูตแบบที่พระคัมภีร์พูด ไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก หรือการมองตนเองมีค่ามากน้อยขนาดไหน เราเป็นทูต เป็นตัวแทนของพระคริสต์ พูดแทนพระคริสต์ เราต้องรับผิดชอบ ตัวอย่าง ไปประกาศที่ท่าเรือ เจอขอทานตาบอด พระเจ้าทำงานในใจว่าเขาไม่ต้องการรักษาตาบอด พอไปถามคนตาบอดเขาไม่ต้องการรักษาจริงๆ เพราะกลัวจะไม่ได้ตังค์ เมื่อเราใกล้ชิดพระเจ้าเราจะรู้ว่าพระเจ้าจะนำอย่างไร ไปหาใคร
2.ต้องรู้จักสิทธิอำนาจที่แท้จริงของพระเจ้า
กจ1:8 ได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน ทั้งที่เขาใกล้ชิดพระเยซูมากแต่พระองค์ก็ยังให้เขาคอยรับฤทธิ์เดชก่อน
พระองค์ต้องการให้เขาประสบความสำเร็จเรื่องการเป็นพยาน ไม่ใช่การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์พระเยซู