เทศนาที่ คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(HIM:GLC) วันที่ 27 เมษายน 2025 (เช้า)
เทศนาที่ คริสตจักรมหาชล สถานนมัสการรามคำแหง (กันและกัน) วันที่ 27 เมษายน 2025 (บ่าย)
พระธรรม 1เธสะโลนิกา “คริสตจักรที่เป็นแบบอย่าง”
ส่วนที่ IV. การดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่าง
ตอนที่ 14.ดำเนินชีวิตตามความจริง 1 (เรื่องผู้เชื่อที่ล่วงหลับไป) (1ธส4:13-18)
1. ผู้เชื่อที่ล่วงหลับไปจะเป็นขึ้นมา (16)
2. ผู้เชื่อจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์(17)
การเสด็จกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
13พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านขาดความเข้าใจเรื่องคนที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้า อย่างคนอื่นๆ ที่ไม่มีความหวัง 14เพราะในเมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์แล้ว โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำบรรดาคนที่ล่วงหลับไปแล้วนั้นมากับพระองค์ 15ตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราขอบอกพวกท่านข้อนี้ว่า เราที่ยังมีชีวิตอยู่และคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะไม่ล่วงหน้าไปก่อนพวกที่ล่วงหลับไปแล้ว 16คือว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยเสียงเรียกของหัวหน้าทูตสวรรค์และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และทุกคนที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
17หลังจากนั้นพระเจ้าจะทรงรับพวกเราซึ่งยังมีชีวิตอยู่ขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ 18เพราะฉะนั้น จงหนุนใจกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด
ตัวอย่าง คำสอนที่ยากคือคำสอนที่ผู้สอนต้องทำได้
เรื่องขำขัน: “สูตรลดน้ำหนักของลุงช้าง”
วันหนึ่ง ลุงช้าง เดินเข้าไปในหมู่บ้านและประกาศต่อหน้าชาวบ้านว่า
“ทุกคนฟังให้ดี! ข้ามีสูตรลดน้ำหนักง่ายๆ ได้ผลแน่นอน! ใครอยากผอมต้องทำตามข้า!”
ชาวบ้านตื่นเต้นและพากันมารอฟัง บางคนจดโน้ตเตรียมตัวจดสูตรเด็ด
ลุงช้างกระแอม แล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า
“สูตรมีแค่ 3 ข้อเท่านั้น!”
1️⃣ กินให้น้อยลง
2️⃣ ออกกำลังกายทุกวัน
3️⃣ อดทน และห้ามโกงตัวเอง!
ผู้ฟังทั้งหลายพากันปรบมือ “โอ้โห! ฟังดูง่ายมาก!”
แต่จู่ๆ ลุงกระต่ายก็มองไปที่ลุงช้างแล้วถามว่า
“แล้วทำไมตัวลุงยังอ้วนอยู่ล่ะ?”
ลุงช้างหน้าแดง แล้วตอบตะกุกตะกักว่า
“อ๋อ… ข้ารู้ว่าวิธีนี้ได้ผล… แต่ข้ายังทำไม่ได้สักที!” ชาวบ้านหัวเราะกันทั้งตลาด
แต่พระเยซูคริสต์สอนบอกว่า พระองค์จะตายเพื่อชำระความผิดบาปของเรา และพระองค์จะเป็นขึ้นมาจากความตาย และคำสอนนั้นเป็นจริง
เบื้องหลัง จาก 1ธส4:14 เพราะในเมื่อเราเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์แล้ว โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำบรรดาคนที่ล่วงหลับไปแล้วนั้นมากับพระองค์
จากพระธรรมตอนนี้จึงขอลำดับเหตุการณ์การสิ้นพระชนม์ และเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์ จากพระธรรมกิตติคุณตอนอื่น
ลำดับเหตุการณ์ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ และเป็นขึ้นมาดังนี้
1. **วันศุกร์ ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ (มาระโก 15:33-37)** – พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาป *”และพระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า ‘สำเร็จแล้ว’ แล้วก็สิ้นพระชนม์”*
2. **วันเสาร์ ที่เงียบงัน (มัทธิว 27:62-66)** – วันที่ดูเหมือนว่าความหวังสูญสิ้น *”พวกมหาปุโรหิตและฟาริสีให้ปิดหลุมศพและวางทหารเฝ้า”*
3. **วันอาทิตย์ แห่งชัยชนะ (ลูกา 24:1-6)** – หลุมศพว่างเปล่าและพระเยซูทรงเป็นขึ้นมา *”พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว!”*
4. **ความหมายของการคืนพระชนม์ต่อเรา (โรม 8:11)** – พระคริสต์ทรงเป็นขึ้นมา และเราก็มีชีวิตในพระองค์ *”พระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงทำให้พระเยซูเป็นขึ้นจากตาย ทรงอยู่ในท่านทั้งหลายด้วย”*
# **สรุป: อีสเตอร์เป็นเรื่องของชัยชนะและความหวัง**
1. **วันศุกร์** – พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา
2. **วันเสาร์** – ความเงียบงันที่ดูเหมือนว่าความหวังสูญสิ้น
3. **วันอาทิตย์** – หลุมศพว่างเปล่าและชัยชนะของพระเยซู
4. **ปัจจุบัน** – เรามีชีวิตใหม่ในพระคริสต์และได้รับชัยชนะผ่านพระองค์
**ขอให้เทศกาลอีสเตอร์นี้เป็นเวลาที่เราจะรื้อฟื้นความเชื่อและเฉลิมฉลองชัยชนะของพระเยซูคริสต์!**
พระธรรม 1เธสะโลนิกา “คริสตจักรที่เป็นแบบอย่าง”
1เธสะโลนิกา ได้ชื่อว่าเป็น คริสตจักรที่เป็นแบบอย่าง สาเหตุมาจาก 1ธส1:7 อ.เปาโลชมเชยผู้เชื่อใหม่ในเมืองนี้ 1ธส1:8 เลื่องลือ (ในทางที่ดี เป็นต้นแบบที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี) พวกเขาเป็นคนต่างชาติที่กลับใจใหม่มาเชื่อพระเจ้า เป็นเพียงผู้เชื่อใหม่ประมาณ 3 สัปดาห์ (หรืออาจจะไม่เกิน 3 เดือน) จากการประกาศทำพันธกิจของอ.เปาโล ในครั้งที่ 2 อยู่ในพระธรรมกิจการ 17: 1-9 (ข้อ4) มีการเกิดผลมาก ผู้เชื่อโดนข่มเหงหนักโดยยิว จนอ.เปาโลไม่สามารถอยู่ในเมืองเธสะโลนิกาได้ ท่านจึงฝากจดหมายให้ทิโมธีกับสิลาส นำไปหนุนใจพี่น้องผู้เชื่อใหม่ที่เมืองเธสะโลนิกา เนื้อหาโดยรวมเป็นไปตามโครงร่างด้านล่างนี้
พระธรรม 1 เธสะโลนิกา “คริสตจักรที่เป็นแบบอย่าง”
ส่วนที่ I. คริสตจักรที่เป็นแบบอย่าง
1.แบบอย่างคริสตจักรของพระเยซูคริสต์ (1:1-3)
2.แบบอย่างคริสตจักรที่น่าชมเชย (1:4-10)
ส่วนที่ II. ลักษณะของผู้นำที่เป็นแบบอย่าง
3.แรงจูงใจของผู้นำที่เป็นแบบอย่าง (2:1-6)
4.ความรักของผู้นำที่เป็นแบบอย่าง (2:7-8)
5.ความประพฤติของผู้นำที่เป็นแบบอย่าง (2:9-10)
6.ความเข้าใจความจริงแห่งพระวจนะของผู้นำที่เป็นแบบอย่าง(2:11-16)
ส่วนที่ III. หัวใจผู้เลี้ยงที่เป็นแบบอย่าง
7.ความรักผูกพันของผู้เลี้ยง (2:17-20)
8.ความห่วงใยของผู้เลี้ยง (3:1-5)
9.ความชื่นชมยินดีของผู้เลี้ยง (3:6-9)
10.การอธิษฐานของผู้เลี้ยง (3:10-13)
ส่วนที่ IV. การดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่าง
11.ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ (4:1-8)
12.ดำเนินชีวิตด้วยความรัก(4:9-10)
13.ดำเนินชีวิตด้วยความรับผิดชอบหน้าที่การงาน (4:11-12)
14.ดำเนินชีวิตตามความจริง 1(เรื่องคนที่ล่วงหลับไป) (4:13-18)
15.ดำเนินชีวิตตามความจริง 2 (เรื่องวันพิพากษา) (5:1-4)
16.ผลที่เกิดขึ้นเมื่อดำเนินชีวิตตามความจริง (5:5-11)
ส่วนที่ V. คุณลักษณะของคริสตจักร ที่เป็นแบบอย่าง
17.เป็นคริสตจักรที่อยู่ภายใต้การดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ (5:12-13)
18.เป็นคริสตจักรที่อยู่ร่วมกันเป็นชุมชนกับพี่น้อง (5:14-15)
19.เป็นคริสตจักรที่มีชีวิตฝ่ายวิญญาณ (5:16-22)
20.เป็นคริสตจักรที่รักษาชีวิตฝ่ายวิญญาณ (5:23-24)
21.เป็นคริสตจักรที่รักษาความสัมพันธ์ที่ดี (5:25-26)
22.เป็นคริสตจักรที่อยู่ภายใต้สิทธิอำนาจ (5:27-28)
วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่องนี้ ผ่านหัวข้อคำเทศนา ตอนที่ 14.ดำเนินชีวิตตามความจริง 1
(เรื่องผู้เชื่อที่ล่วงหลับไป) (1ธส4:13-18)
1. ผู้เชื่อที่ล่วงหลับไปจะเป็นขึ้นมา (16)
เปาโลเริ่มต้นด้วยการกล่าวว่า ความไม่รู้ที่นำไปสู่ความทุกข์ (ข้อ 13)
“พี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่รู้เรื่องคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไป เกรงว่าท่านจะโศกเศร้าเหมือนคนอื่นๆ ที่ไม่มีความหวัง”
16คือว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยเสียงเรียกของหัวหน้าทูตสวรรค์และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และทุกคนที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
– ในโลกนี้ คนมากมายมีความกลัวต่อความตาย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังความตาย สำหรับตนเอง หรือญาติมิตรคนที่พวกเขารักผูกพัน หรือแม้แต่ชีวิตหลังความตายของศัตรู นี่คือคนที่ไม่มีความหวังแบบที่อ.เปาโลกล่าวไว้
– คริสเตียนเองก็อาจมีคำถามว่า “ผู้เชื่อที่ตายไปแล้วจะเป็นอย่างไร?”
– เปาโลต้องการให้พี่น้องเธสะโลนิกามีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อจะไม่ต้องเศร้าโศกเหมือนคนที่ไม่มีความหวัง
ข้อคิด: เราสามารถเศร้าโศกได้เมื่อสูญเสียคนที่เรารัก แต่เราต้องไม่สูญเสียความหวังที่อยู่ในพระคริสต์
เมื่อผู้เชื่อตายในพระคริสต์ จิตวิญญาณอยู่ที่ไหน?
1.จิตวิญญาณไปอยู่กับพระเยซูทันทีในสวรรค์ (Paradise) (ลูกา 23:43, 2 โครินธ์ 5:8) 2 โครินธ์ 5:8″แต่เรามีใจกล้าและพอใจมากกว่า ที่จะออกจากร่างกายนี้และอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า”
ลูกา 23:43 – “เราบอกความจริงกับเจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมือง
บรมสุขเกษม” (พระเยซูตรัสกับโจรที่กลับใจบนกางเขน)
2.รอการคืนชีพของร่างกายในวันสุดท้าย (1 เธสะโลนิกา 4:16) คือว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยเสียงเรียกของหัวหน้าทูตสวรรค์และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และทุกคนที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
3.สุดท้าย ผู้เชื่อจะอยู่ในสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ตลอดนิรันดร์ (วิวรณ์ 21:3-4)”พระเจ้าจะทรงอยู่กับพวกเขา… และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาของพวกเขา”
เปาโลหนุนใจ พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว และเรามีความหวัง (1 เธสะโลนิกา 4:13-14)
– เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อ **ปลอบโยนผู้เชื่อที่สูญเสียคนที่พวกเขารัก**
– เราสามารถโศกเศร้าได้ แต่ **ไม่ใช่ในแบบที่ไร้ความหวัง** เพราะพระเยซูทรงเป็นขึ้นมา **ผู้เชื่อทุกคนจะมีชีวิตนิรันดร์ในพระองค์**
ความหวังในพระเยซูคริสต์ (ข้อ 14) จึงทำให้เชื่อว่า คนที่ล่วงหลับไปจะเป็นขึ้นมามีชีวิตเช่นกัน
“เพราะว่าถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์และทรงเป็นขึ้นมาแล้ว เราก็เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำคนที่ล่วงหลับไปแล้วในพระเยซูให้มากับพระองค์ด้วย“
– พื้นฐานของความหวังของเราคืออะไร? การเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูคริสต์!
– ถ้าพระเยซูทรงเป็นขึ้นจากตายได้ พระองค์ก็สามารถทำให้ผู้เชื่อที่ตายไปแล้วเป็นขึ้นมาได้เช่นกัน
– พระเยซูไม่ได้เพียงแค่ตายเพื่อบาปของเรา แต่พระองค์ทรงฟื้นขึ้นเพื่อให้เรามีชีวิตนิรันดร์ด้วย
ข้อคิด: ความหวังของคริสเตียนไม่ได้อยู่ที่ชีวิตนี้เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงชีวิตหลังความตายด้วย
หากพระเยซูไม่ได้เป็นขึ้นมา **เราจะไม่มีความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์** (1 โครินธ์ 15:17) – หากพระเยซูไม่ได้เป็นขึ้นมา ความเชื่อของเราก็ไร้ประโยชน์ (1 โครินธ์ 15:17)
แต่เพราะพระองค์ทรงเป็นขึ้นมา **เรามั่นใจได้ว่าความตายไม่ใช่จุดจบ**
พระเยซูเป็นขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า (โรม 1:3-4)
การคืนพระชนม์ของพระเยซูและความหมายของมัน
โรม 1:3-4 – “…ถึงพระเยซูคริสต์เจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ทรงเป็นบุตรของดาวิดตามสภาพมนุษย์ และโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงปรากฏว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้าด้วยฤทธิ์อำนาจ เพราะการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระองค์…”
การคืนพระชนม์ของพระเยซู ยืนยันว่าพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า
– เป็นการพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ตามที่พระคัมภีร์พยากรณ์ไว้
ข้อคิด:
อีสเตอร์เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า ความเชื่อของเรามีรากฐานที่มั่นคงในพระเยซูผู้ทรงพระชนม์อยู่
เราได้รับชีวิตใหม่และต้องถือว่าตัวเองตายแล้วต่อบาป (โรม 6:8-11)
การเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูทำให้เรามีชีวิตใหม่
โรม 6:8-11
“แต่ถ้าเราตายกับพระคริสต์แล้ว เราก็เชื่อว่าเราจะมีชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วย เพราะเรารู้ว่าพระคริสต์ผู้ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นจากความตายแล้ว จะไม่ตายอีกต่อไป ความตายจะไม่มีอำนาจเหนือพระองค์อีกแล้ว…”
– พระเยซูไม่เพียงแต่ทรงตายแทนเรา แต่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาเพื่อให้เรามีชีวิตใหม่
– ความตายไม่มีอำนาจเหนือพระองค์อีกต่อไป และ ในพระองค์ เราก็ได้รับชัยชนะเหนือความตาย
– เราต้องถือว่าตัวเอง “ตายแล้วต่อบาป” และ “มีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้า”
ข้อคิด:
พระเยซูฟื้นขึ้นมา ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เรามีชีวิตนิรันดร์ในอนาคต แต่เพื่อให้เรามี ชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ตอนนี้
พระธรรมที่สำคัญเกี่ยวกับการคืนพระชนม์ของพระเยซู
มัทธิว 28:5-6
“แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พวกหญิงนั้นว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรารู้ว่าพวกท่านแสวงหาพระเยซูผู้ถูกตรึงไว้ที่กางเขน พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพราะพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้วตามที่พระองค์ได้ตรัสไว้ จงมาเถิด มาดูสถานที่ที่พระองค์ทรงเคยบรรทมอยู่”
✅ ยืนยันว่าหลุมศพว่างเปล่า เพราะพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว
ยอห์น 11:25-26
“พระเยซูตรัสกับนางว่า “เราเป็นขึ้นและเป็นชีวิต ผู้ที่วางใจในเราจะมีชีวิตแม้ว่าเขาจะตาย และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อสิ่งนี้หรือไม่?”
✅ พระเยซูไม่ได้เป็นแค่บุคคลหนึ่งที่คืนชีพ แต่พระองค์ คือการคืนชีพและชีวิต สำหรับทุกคนที่เชื่อ
กิจการ 2:24
“แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์คืนพระชนม์ โดยทรงปลดเปลื้องความเจ็บปวดแห่งความตาย เพราะว่าความตายนั้นไม่อาจหน่วงพระองค์ไว้ได้”
✅ แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ทำให้พระเยซูคืนพระชนม์ และพระเยซูมีอำนาจเหนือความตาย
1 โครินธ์ 15:3-4
“เพราะว่าข้าพเจ้าได้มอบข้อความสำคัญที่สุดที่ข้าพเจ้าได้รับมาให้กับพวกท่านแล้ว คือว่าพระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ และทรงถูกฝังไว้ และวันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้”
✅ เปาโลเน้นว่า การเป็นขึ้นของพระเยซูเป็นหัวใจของข่าวประเสริฐ ตามที่พระคัมภีร์พยากรณ์ไว้
1โครินธ์ 15:20
“แต่บัดนี้พระคริสต์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกของคนทั้งหลายที่ล่วงหลับไปแล้ว”
✅ พระเยซูเป็น “ผลแรก” หมายความว่าพระองค์เป็นเพียงองค์แรกที่เป็นขึ้นมา และผู้เชื่อทุกคนจะเป็นขึ้นมาตามพระองค์
สรุป
มัทธิว 28:5-6 – ทูตสวรรค์ประกาศว่าพระเยซูคืนพระชนม์แล้ว
ลูกา 24:6-7 – พระเยซูทรงพยากรณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับการคืนชีพ
ยอห์น 11:25-26 – พระเยซูทรงเป็น “การคืนพระชนม์และชีวิต”
กิจการ 2:24 – พระเจ้ายืนยันชัยชนะเหนือความตายของพระเยซู
โรม 6:9 – พระเยซูจะไม่มีวันตายอีก
1 โครินธ์ 15:3-4 – การเป็นขึ้นของพระเยซูเป็นหัวใจของข่าวประเสริฐ
1 โครินธ์ 15:20 – พระเยซูทรงเป็นผลแรกของการคืนพระชนม์
ข้อคิดที่สำคัญ:
หากพระเยซูไม่ได้เป็นขึ้นมา ความเชื่อของเราก็ไร้ประโยชน์ (1 โครินธ์ 15:17)
แต่เพราะพระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว เราจึงมีความหวังในชีวิตนิรันดร์
2. ผู้เชื่อจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์(17)
การเสด็จกลับมาของพระคริสต์ และการเป็นขึ้นของผู้เชื่อ (1 เธสะโลนิกา 4:15-16)
17หลังจากนั้นพระเจ้าจะทรงรับพวกเราซึ่งยังมีชีวิตอยู่ขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์
– ไม่ว่าผู้เชื่อจะตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ **ทุกคนจะได้อยู่กับพระเยซูตลอดไป**
– นี่คือ **ข่าวดีที่ปลอบโยนใจเรา**
– เราจะไม่มีวันพรากจากพระเจ้าอีกต่อไป
**ข้อคิด**: เราไม่ได้มีแค่ **ความหวังในโลกนี้** แต่มี **ความหวัง นิรันดร์ในพระเยซูคริสต์**คำสัญญาแห่งการเสด็จกลับมา (ข้อ 15-16)
เปาโลยืนยันว่า พระเยซูจะเสด็จกลับมา
“เพราะว่าเราอาศัยพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้า และกล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า…”
ลำดับเหตุการณ์เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา:
พระเยซูจะเสด็จมาจากสวรรค์
จะมีเสียงร้องของทูตสวรรค์และแตรของพระเจ้า
ผู้ที่ตายในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน (ฝ่ายร่างกาย)
– ผู้ที่ล่วงหลับไปแล้วจะไม่ได้สูญหายไปตลอดกาล
– พระเจ้าทรงมีแผนสำหรับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
– พระเยซูจะทรงนำพวกเขากลับมาพร้อมกับพระองค์
ข้อคิด: คำสัญญานี้เป็นหลักประกันว่าความตายไม่ใช่จุดจบของชีวิต แต่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตนิรันดร์
**เราได้รับความรอดและชีวิตนิรันดร์ผ่านทางพระคริสต์**
**เราควรดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ความกลัว**
**เราควรหนุนใจกันด้วยความจริงนี้**
**ข้อคิด**:
คุณใช้ชีวิตอย่างคนที่มีความหวังในพระคริสต์หรือไม่?
คุณกำลังแบ่งปันข่าวดีนี้กับคนอื่นหรือเปล่า?
### **ลองมาดูชีวิตหลังความตายในมุมมองของศาสนาพุทธดูบ้าง**
ในศาสนาพุทธ ความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเกี่ยวข้องกับกฎแห่งกรรม (กมฺม) และวัฏสงสาร (สังสารวัฏ) ซึ่งหมายถึงการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ในภพภูมิต่างๆ ตามผลของกรรมที่ได้กระทำไว้
## ** 1. กฎแห่งกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด**
**หลักการสำคัญ**: *”ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”*
– ศาสนาพุทธเชื่อว่าชีวิตหลังความตายขึ้นอยู่กับกรรม (การกระทำ) ที่เราทำไว้ในอดีต
– เมื่อคนเราตายไป ดวงจิต (วิญญาณ หรือ จิตสันดาน) ไม่ได้สูญหายไป แต่จะไปรับผลของกรรมในภพใหม่
– ผู้ที่ทำกรรมดี จะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ส่วนผู้ที่ทำกรรมชั่ว จะไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่า
## ** 2. ภพภูมิทั้ง 6: สถานที่เกิดใหม่หลังความตาย**
ในพุทธศาสนาแบ่งภพภูมิที่ดวงจิตสามารถไปเกิดใหม่ได้เป็น **6 ภพภูมิหลัก** ได้แก่
### ** 1. สวรรค์ (เทวภูมิ)**
– เป็นที่อยู่ของเทวดาและผู้ที่มีบุญมาก
– เต็มไปด้วยความสุข แต่ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เพราะเมื่อหมดบุญก็ต้องเวียนว่ายเกิดใหม่
### ** 2. มนุษย์ (มนุษยภูมิ)**
– เป็นภพที่สำคัญที่สุด เพราะสามารถสร้างกรรมใหม่และบำเพ็ญเพียรเพื่อหลุดพ้นได้
– มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกัน
### ** 3. อสูรกาย (อสูรกายภูมิ)**
– เป็นภพของดวงจิตที่มีความโลภ โกรธ หลง
– มีความทุกข์มากกว่ามนุษย์
### ** 4. เดรัจฉาน (เดรัจฉานภูมิ)**
– เป็นภพของสัตว์เดรัจฉาน ผู้ที่มีความหลงและไร้ปัญญา
– มีอายุขัยที่สั้นและมักต้องเผชิญกับความทุกข์
### ** 5. เปรต (เปรตภูมิ)**
– เป็นภพของผู้ที่ทำบาปบางอย่าง เช่น โลภมาก หรืออกตัญญู
– ต้องทนทุกข์ทรมาน เช่น หิวกระหายอยู่ตลอดเวลา
### ** 6. นรก (นรกภูมิ)**
– เป็นที่ที่ผู้ทำกรรมชั่วต้องรับโทษ
– มีความทุกข์ทรมานอย่างมาก แต่ไม่ใช่สถานที่อยู่ถาวร เมื่อหมดกรรมแล้วก็สามารถไปเกิดใหม่ได้
## ** 3. เป้าหมายสูงสุด: นิพพาน**
**นิพพาน (Nirvana) คือ การหลุดพ้นจากวัฏสงสาร**
– ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก
– ไม่มีความทุกข์ ไม่มีอัตตา ไม่มีการเกิดดับ
**วิธีการบรรลุนิพพาน**
1. **รักษาศีล** (ไม่ทำบาป)
2. **ทำบุญ** (บำเพ็ญเพียร สร้างกุศล)
3. **ปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนา** (เจริญปัญญาเพื่อให้พ้นจากกิเลส)
## ** สรุป**
– **ชีวิตหลังความตายตามพุทธศาสนา** ขึ้นอยู่กับกรรมที่ทำไว้
– มี **6 ภพภูมิ** ที่สามารถไปเกิดใหม่ได้
– เป้าหมายสูงสุดของชีวิตคือ **นิพพาน** ซึ่งเป็นการพ้นจากวัฏสงสาร
**”ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว ทางหลุดพ้นคือปัญญา”**
สรุป: ความหวังแห่งการคืนพระชนม์ในพระคริสต์**
1.ผู้เชื่อที่ล่วงหลับไปจะเป็นขึ้นมา (16)
**เพราะพระเยซูทรงเป็นขึ้นมา เราจึงมีความหวังแม้ในความตาย (1 เธสะโลนิกา 4:13-14)**
**พระคริสต์จะเสด็จกลับมา และผู้ที่ตายในพระองค์จะเป็นขึ้นมา (1 เธสะโลนิกา 4:15-16)**
2. **เราจะได้อยู่กับพระคริสต์ตลอดนิรันดร์ (1 เธสะโลนิกา 4:17-18)**
**เราต้องดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและหนุนใจกันในความจริงนี้ (1 เธสะโลนิกา 5:9-11)**
ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของนิรันดร์กาล
ขอให้เทศกาลอีสเตอร์นี้เป็นเวลาที่เราจะมั่นใจในความหวังที่มีในพระคริสต์!
**สุขสันต์วันอีสเตอร์! พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาแล้ว! ฮาเลลูยา!**
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
อ้างอิง
- https://biblehub.com/commentaries/alford/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/bengel/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/benson/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/illustrator/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/cambridge/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/pulpit/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/ellicott/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/mhc/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/barnes/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/jfb/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/gill/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/meyer/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/egt/1_thessalonians/1.htm
- https://biblehub.com/commentaries/cambridge/1_thessalonians/1.htm
- https://bible.alpha.org/th/classic/283/index.html
- https://prakham.com/2020/10/20/1-เธสะโลนิกา-มี-5-บท/