หน้าแรก คำสอน รักพระคำ รักพระคำ ตอนที่ 3

รักพระคำ ตอนที่ 3

1326
0

.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี Bible House “รักพระคำ

อาทิตย์ที่ 26 .. 2019  คริสตจักรบ้านพลังรัก ครั้งที่๑

บทที่ แนวทางในการศึกษาพระธรรมของพระเจ้า

ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการ พัฒนาชีวิตใหม่ในพระคริสต์ของเราคือ พระ วจนะของพระเจ้า (มธ.:  4ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า   มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า  มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียว หามิได้  แต่บำรุงด้วยพระวจนะทุกคำ  ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”) 

สรุปความว่า ปัจจัยหลักที่ใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านร่างกายของคนเรานั้นคือ อาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีคุณค่าที่สมบูรณ์

ปัจจัยที่สำคัญสำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านจิตวิญญาณของคนของพระเจ้านั้น คือ พระวจนะของพระเจ้าทุกคำ

(เชื่อว่าเราทุกคนรู้เรื่องนี้แก่ใจดีอยู่แล้ว ) แต่เกิดอะไรขึ้น เมื่อเราไม่ได้ทานอาหารฝ่ายร่างกายเราจะรู้สึกหิว และเสาะแสวงหา แต่ทำไม เมื่อเราไม่ได้รับการบำรุงด้วยพระวจนะของพระเจ้า จิตวิญญาณเราจึงไม่เราจึงไม่รู้สึกหิว

(อภิปราย)

บางคนบอกว่าป่วยจิตวิญญาณ,ถูกครอบงำ,รักโลก,มีค่านิยมของโลกมากกว่าพระคัมภีร์,ไม่มีชีวิตในฝ่ายวิญญาณ,ไม่ได้บังเกิดใหม่

(๑๙๗๑) โยบ ๒๓:๑๒  12ข้ามิได้พรากไปจากพระบัญญัติแห่งริมพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าตีราคาพระวจนะแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ สูงกว่าเจตนาของข้า

(มาตรฐาน) 12ข้ามิได้พรากไปจากพระบัญญัติแห่งไพรพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าสะสมพระวจนะแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ ไว้มากกว่ากฏเกณฑ์ของข้า   

(อมตธรรมร่วมสมัย) 12ข้าไม่ได้พรากไปจากพระบัญชาของพระองค์ ข้าเห็นว่าพระวจนะจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ล้ำค่ายิ่งกว่าอาหารประจำวัน (ของข้า)

(คิงเจมส์) 12ข้าฯ.มิได้หักกฏคำสั่งสอนแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์  ข้าฯ.ตีราคาพระคำแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ ล้ำค่ายิ่งกว่าอาหารส่วนจำเป็นของข้าฯ.

  จะด้วยเหตุผล กลใดเราไม่ทราบจริงๆว่า โยบคิดอะไรอยู่ในใจ จึงได้กล่าวเปรียบเทียบพระคำแห่งพระโอษฐ์ของพระเจ้ากับ อาหารประจำวันของท่าน

แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ การจัดเวลาเพื่อทำสิ่งที่เราเรียกว่าศึกษาพระคัมภีร์เป็นเวลาที่เราจะใช้ในการรับประทานอาหารฝ่ายจิตวิญญาณที่ดี เพื่อนำการพัฒนามาสู่ชีวิต ด้านจิตวิญญาณให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อชีวิตของเราจะเกิดผลมาก

สรุปเรื่องนี้จากคำสอนขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าในพระธรรม ยอห์น บทที่ ๑๕ สองตอนด้วยกัน

1.ยอนห์น ๑๕:  7ถ้าท่านทั้งหลายเข้าสนิทอยู่ในเรา และถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใดซึ่งท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น

2.ยอห์น ๑๕: 4จงเข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในท่านแขนงจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดอยู่ กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น 5เราเป็นเถาองุ่น   ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในพระธรรม ๒ตอนนี้คือ

เข้าสนิทอยู่ในเรา เราต้องเน้นเรื่อง ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างเรากับพระเจ้า

ถ้อยคำของเราฝังอยู่ในท่าน เราต้องเน้นเรื่องการบำรุงรักษาชีวิตด้วยพระวจนะ 

การเกิดผลมาก การมีชีวิตที่เจริญเติบโต พร้อมด้วยความสำเร็จอย่างมาก มายจากการอธิษฐาน

ปัจจัยที่ใช้ในการศึกษาพระธรรมบัญญัติของพระเจ้า

1.เวลา

เรามีเวลาคนละ ๒๔ ชั่วโมงต่อวัน (จะลงท้ายด้วยเท่านั้นหรือขึ้นด้วยตั้ง”) ขึ้นอยู่กับ

มุมมองตามสถานการณ์ของแต่ละคน แต่ไม่ว่าเราจะรู้สึกว่า ๒๔ ชั่วโมงนั้นจะมากหรือน้อยก็ตาม เราต้องจัดเวลาในแต่ละวันเพื่อการศึกษาอย่างจริงจัง แนวทางในการจัดเวลาสำหรับการศึกษาพระธรรมของพระเจ้าต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญ ประการคือ

. ปริมาณของเวลาที่จะจัดไว้สำหรับการศึกษาพระธรรมของพระเจ้านั้นควรจะมีเวลามากเพียงพอ จะมากเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะกำหนด

. คุณภาพของเวลาที่จะจัดไว้เพื่อการศึกษาพระธรรมของพระเจ้านั้น ต้องเป็นเวลาที่มี ประสิทธิภาพสูงสุดของเราแต่ละคนในแต่ละวัน เวลาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดหมายถึง ช่วงเวลาที่ท่านสามารถทำงานได้ดีที่สุดและสามารถสร้างผลงานได้สูงสุดในระหว่างวัน เราต้องคุ้มครองช่วงเวลานั้นไว้เป็นอย่างดี เพื่อใช้ทำสิ่งที่สำคัญสุด สิ่งที่มีคุณภาพที่สุดในชีวิต คือ ช่วงเวลาที่เราทำงานได้ดี สร้างผลงานได้ดี

2.สถานที่

จากพระธรรม ลก.๒๒:๓๙๔๑   39 ฝ่ายพระองค์ เสด็จออกไปยังภูเขามะกอกเทศตามเคย และเหล่าสาวกของพระองค์ก็ตามพระองค์ไป 40เมื่อมาถึงที่นั่นแล้ว พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า  จงอธิษฐานเพื่อมิให้เข้าในการทดลอง  41แล้วพระองค์ดำเนินไปจากเขาไกลประมาณขว้างหินตก และทรงคุกเข่าลงอธิษฐาน

( ขีดเส้นใต้คำว่าภูเขามะกอกเทศตามเคย” ) ข้อความนี้ชี้ให้เราเห็นว่า พระเยซูทรงมีสถานที่ ที่พระองค์ทรงใช้สำหรับอธิษฐานเป็นประจำ เป็นสถานที่พิเศษ ที่พระองค์สามารถใช้เวลาที่จะเข้าถึงพระเจ้าเป็นส่วนตัวโดยไม่ถูกรบกวน สำหรับเราทั้งหลายจะเป็นที่ไหนก็ได้ที่เรากันไว้จาก การรบกวนของ สังคม โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ. เพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าเป็นส่วนตัว เป็นประจำ ทุกวัน

3.หนังสือพระคัมภีร์ ในภาษาที่คุณอ่านเข้าใจ

4.หนังสือคู่มือเพื่อที่จะทำความเข้าใจอย่างง่ายได้ และหนังสืออื่นๆ   

5.อุปกรณ์อื่นๆ สมุด ดินสอปากกา โน้ตบุ้ค ไอแพค ฯลฯ. เพื่อจดบันทึกข้อมูล

ขั้นตอนในการศึกษาพระธรรมบัญญัติของพระเจ้า

1.กำหนดเวลาที่แน่นอน จะเป็น ๓๐ นาที หรือ ๖๐ นาที ๑๒๐นาที

2.สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สบายๆ เพราะเราต้องการปัญญา หายใจยาวๆ จิตใจสงบนิ่งจัดที่นั่งให้สบายๆวางอุปกรณ์ทุกอย่างที่เตรียมมาไว้บนโต๊ะหลับตาสักครู่เพื่อสงบสติอารมณ์ จากตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมาที่นี้

3.อธิษฐานขอการทรงนำจากพระเจ้า และการทรงสถิตย์ของพระเจ้าอยู่กับเรา

4.อ่านพระคัมภีร์ด้วยใจอธิษฐานและด้วยการใคร่ครวญอย่างรอบคอบ (อ่านให้รู้เรื่องและทำความเข้าใจ) ตัวอย่างเช่น ยน3:16 เพราะพระเจ้าทรงรักโลก แสดงว่า

(1)เพราะพระเจ้าเป็นสาเหตุของการตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตของเรา เพราะชีวิตเราเริ่มต้นที่พระเจ้าทุกวัน เพราะพระเจ้า หรือเพราะข้าพเจ้า

(2)ทรงรักโลกเรียนรู้ที่จะรักคนแบบที่พระเจ้ารัก รักในส่ิงที่พระเจ้ารัก ชังในสิ่งที่พระเจ้าชัง ไม่ใช่รักในส่ิงที่พระเจ้าชัง ชังในส่ิงที่พระเจ้ารัก เราทำอะไรเพื่อจิตวิญญาณของคนที่เรารักได้บ้าง

(3)เรียนพระคัมภีร์เพื่อให้รู้ว่าเราเป็นใครที่ดีขึ้น เราควรจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องอะไร คนจะเติบโตจากการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่อยู่เหมือนเดิม ไม่ใช่เรียนเพื่อจะได้ประโยชน์อะไร

ตอบสนองพิจารณาดูว่าพระธรรมที่เรากำลังทำความเข้าใจอยู่นี้มีอะไรที่โดนใจเราบ้าง หรือพระเจ้าตรัสอะไรกับเราผ่านพระธรรมตอนนี้

1.จดส่ิงที่เราได้รับพระพร หรือที่เราได้รับทั้งหมดลงในสมุดที่เตรียมไว้

2.กำหนดแนวทางปฎิบัติตามเนื้อหาที่เราจดไว้ ด้วยการตอบคำถามต่อไปนี้ จะทำตามนั้นได้อย่างไร จะเริ่มลงมือทำเมื่อไร ต้องหยุดพฤติ    กรรมอะไรบ้าง

3.ปิดท้ายด้วยการอธิษฐาน ขอกำลังจากพระเจ้าในการดำเนินตามสิ่งที่ได้รับจากพระเจ้าอย่างคงเส้นคงวา ตามแนวทางที่พี่น้องคริสเตียนในอดีตได้วางแบบอย่างไว้ในพระธรรม

๓ยอห์น ข้อ 3เพราะว่าข้าพเจ้าปีติยินดีอย่างยิ่ง   เมื่อพวกพี่น้องบางคนได้มาและเป็นพยานถึงชีวิตอันคงเส้นคงวาของท่าน   ตามที่ท่านได้ประพฤติตามสัจจะนั้น

ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่