ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรมยากอบ คือ พระเจ้ามีเกณฑ์การพิพากษา(12,13) โดยพระเจ้ารักคน เมตตาคน อยากช่วยเหลือให้คนไม่ต้องถูกพิพากษา ดังนั้นพระเจ้าจึงสำแดงเปิดเผยให้เข้าใจเรื่องเราจะถูกตัดสิน(9) เราจะถูกพิพากษา(12) แต่คนที่มีความเชื่อในพระเจ้าพวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต เพื่อไม่ต้องถูกพิพากษา
เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรมยากอบแล้ว มีเกณฑ์การพิพากษาสำหรับคนที่ไม่ชนะการทดลองใจ ทำให้มีความคิดชั่วร้าย ทำชั่วร้าย และไม่ผ่านบททดสอบความเชื่อโดยปฎิบัติต่อคนอื่น และปฎิบัติต่อพระวจนะของพระเจ้าไม่ดี มีความลำเอียงเข้าข้างตนเอง
1พี่น้องของข้าพเจ้า ในเมื่อพวกท่านมีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งศักดิ์ศรีของเรานั้น ก็จงอย่าลำเอียง 2เพราะว่าถ้ามีคนหนึ่งสวมแหวนทองคำและแต่งตัวดีเข้ามาในที่ประชุมของท่านทั้งหลาย และมีคนจนคนหนึ่งแต่งตัวซอมซ่อเข้ามาด้วย 3และท่านสนใจแต่คนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างดีและกล่าวกับเขาว่า “ขอเชิญนั่งที่นี่” ขณะเดียวกันท่านก็พูดกับคนจนนั้นว่า “ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ” หรือ“มานั่งที่พื้นแทบเท้าเรา” 4พวกท่านก็แบ่งชั้นวรรณะและตัดสินด้วยความคิดที่ชั่วร้ายไม่ใช่หรือ? 5จงฟัง พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า พระเจ้าทรงเลือกคนยากจนในโลกนี้ให้เป็นคนมั่งมีในความเชื่อและเป็นผู้รับมรดกในอาณาจักรที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับผู้ที่รักพระองค์ไม่ใช่หรือ? 6แต่พวกท่านกลับดูถูกคนจน พวกคนมั่งมีไม่ใช่หรือที่กดขี่ข่มเหงท่าน? และพวกเขาไม่ใช่หรือที่ลากตัวท่านไปขึ้นศาล? 7พวกเขาไม่ใช่หรือที่หมิ่นประมาทพระนามประเสริฐที่ใช้เรียกพวกท่าน?
8ถ้าพวกท่านปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้าอย่างแท้จริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” พวกท่านก็ทำดี 9แต่ถ้าพวกท่านลำเอียง ท่านก็ทำบาป และถูกตัดสินว่าเป็นผู้ละเมิดโดยธรรมบัญญัติ 10เพราะว่าใครที่รักษาธรรมบัญญัติทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว คนนั้นก็ทำผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด 11เพราะว่าพระองค์ผู้ตรัสว่า “ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา” ก็ตรัสไว้ด้วยว่า “ห้ามฆ่าคน” แม้ท่านไม่ได้ล่วงประเวณีแต่ได้ฆ่าคน ท่านก็เป็นผู้ละเมิดธรรมบัญญัติ 12เช่นนั้นแหละ พวกท่านจงพูดและทำเหมือนอย่างคนที่จะถูกพิพากษาด้วยหลักเกณฑ์แห่งเสรีภาพ 13เพราะว่าการพิพากษาย่อมไม่เมตตาต่อคนที่ไม่แสดงความเมตตา ความเมตตาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
A : Attitude
เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?
พระคัมภีร์สำแดงให้เรารู้ว่า เราจะถูกตัดสิน เราจะถูกพิพากษา แต่พระเจ้าผู้พิพากษามีความเมตตา ไม่อยากลงโทษเรา พระองค์อยากช่วยเรา
การทดลองใจคือ ทำให้เราคิดชั่วร้ายกับคนอื่น มีใจลำเอียงต่อคน ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไม่เห็นคุณค่าของคนแบบที่พระเจ้าเห็น แต่มีใจลำเอียงเห็นแก่ประโยชน์อยากได้ของตน สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับพระลักษณะของพระเจ้า ต่อสู้กับพระเจ้า
ข้อบัญญัติหรือพระวจนะของพระเจ้าสอนให้รักคน หากเราปฎิบัติต่อคนโดยลำเอียง มีใจอคติ ไม่เห็นคุณค่าคน แม้ว่าเราจะศึกษาพระคัมภีร์มามาก มีความรู้พระวจนะมาก พระเจ้าก็นับว่าเราผิดต่อพระเจ้า เราไม่ได้ดำเนินชีวิตตามพระวจนะ เราก็เหมือนคนไม่เชื่อพระเจ้าเพราะจะถูกพิพากษาลงโทษ เพราะทำตามพระวจนะข้อหนึ่งไม่ได้ก็ทำบาปแล้ว
หากเราต้องการชนะการทดลองใจ และผ่านบททดสอบความเชื่อเรื่องนี้ เราต้องเข้าใจเกณฑ์การทดสอบ เกณฑ์การพิพากษาของพระเจ้า คือ การเห็นคุณค่าคนอย่างที่พระเจ้าเห็น
เราจะถูกพระเจ้าพิพากษาเหมือนกับที่เราพิพากษาคนอื่น ดังนั้นจงระมัดระวังการปฎิบัติต่อผู้อื่นอย่างดีด้วยความเมตตา เพื่อเราจะได้รับความเมตตาจากพระเจ้าเช่นเดียวกัน
C : Christ in focus
เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?
พระเยซูสอนว่าผู้ที่มีใจเมตตาก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับพระเมตตาตอบ มธ5:7 และ ในมธ12:7พระเยซูบอกว่า
ถ้าพวกท่านเข้าใจความหมายของพระคัมภีร์ ที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา’ พวกท่านก็คงจะไม่ตัดสินลงโทษพวกที่ไม่มีความผิด
T : Transformation
เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?
เปลี่ยนแปลงเรื่องการปฎิบัติต่อผู้อื่นอย่างเห็นคุณค่า อย่าลำเอียง อย่ามีทัศนคติไม่ดีต่อคนอื่น อย่าลำเอียงต่อพระวจนะตัดสินเข้าข้างตนเอง แต่ไม่เห็นคุณค่าคนอื่น เพราะเรารู้ว่าเราจะถูกพิพากษาจากพระเจ้าเช่นกัน ให้เราเมตตาต่อคนอื่น รักคน ไม่พิพากษาคน
S : Serve
เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?