ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม1 เปโตร คือ พระคริสต์ทนทุกข์ด้วยการทำดี เพราะเป็นการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม1 เปโตรแล้ว ท่านจะเข้าใจการตอบสนองต่อการทนทุกข์โดยดูแบบอย่างจากพระเยซูคริสต์
17เพราะว่าการทนทุกข์เพราะทำดี ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ก็ดีกว่าการทนทุกข์เพราะทำชั่ว 18เพราะพระคริสต์ทรงทนทุกข์ครั้งเดียวเป็นพอเพราะบาป คือพระองค์ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่านไปถึงพระเจ้า ฝ่ายกายพระองค์จึงสิ้นพระชนม์ แต่ฝ่ายจิตวิญญาณทรงคืนพระชนม์ 19และโดยทางวิญญาณ พระองค์ได้เสด็จไปบอกพวกวิญญาณที่ติดคุกอยู่ 20ซึ่งในสมัยก่อนไม่เชื่อฟังพระเจ้า คราวเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอยให้กลับใจในสมัยโนอาห์ ขณะที่ท่านกำลังต่อเรือใหญ่ ในเรือนั้นมีน้อยคน คือแปดชีวิตรอดผ่านน้ำ
21บัดนี้น้ำนั้นที่เล็งถึงพิธีบัพติศมาก็ช่วยพวกท่านให้รอดเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นการชำระมลทินทางกาย แต่เป็นการวิงวอนพระเจ้าเพื่อจะมีมโนธรรมที่ดี ความรอดนั้นมาโดยทางการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ 22พระองค์เสด็จสู่สวรรค์ และประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าแล้ว มีพวกทูตสวรรค์และพวกวิญญาณที่มีอำนาจ และพวกวิญญาณที่มีฤทธานุภาพอยู่ใต้บังคับของพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
A : Attitude
เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?
การทนทุกข์ด้วยการทำดีเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า(17)
พระคริสต์ทนทุกข์เพราะผู้ไม่ชอบธรรม ไม่ใช่ทนทุกข์เพราะบาปของตนเองจนถึงสิ้นพระชนม์ แต่ฝ่ายวิญญาณจิตของพระองค์ทรงคืนพระชนม์(18)
โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์นี้มีผลต่อวิญญาณของคนที่ตายไปแล้วสมัยโนอาห์ คือพวกเขาได้รับรู้เรื่องการแผนการความรอดของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ (19)
สำหรับข้อนี้มีการตีความหลายแบบ เช่น วิญญาณของพระคริสต์ไปจริงๆหลังพระองค์สิ้นพระชนม์ หรือวิญญาณของพระคริสต์ก่อนที่จะมาบังเกิดเป็นมนุษย์พระองค์ประกาศผ่านโนอาห์ไปแล้ว
ไม่ว่าจะตีความแบบใดเราต้องเข้าใจความจริงเรื่อง ความรอด เป็นเอกสิทธิ์ของพระเจ้า พระองค์เป็นผู้เดียวที่จะประทานให้ได้ เป็นพระคุณของพระเจ้า ไม่มีใครสามารถแสวงหาพระเจ้าพบได้ถ้าพระเจ้าไม่ทรงสำแดง หรือเปิดเผยพระองค์ให้รู้จัก
ดังนั้นพระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอด พระองค์จึงทรงสำแดงพระองค์และทรงให้มีการประกาศเรื่องความรอด แต่การได้รับความรอดเป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะตอบสนองต่อความรอดที่พระเจ้าประทานให้ คือ การเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ เปโตรใช้คำว่า “การรับบัพติศมา” ซึ่งหมายถึงการประกาศความเช่ือของตนที่มีในพระเยซูคริสต์
(ท่านที่ต้องการศึกษาให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ให้ค้นคว้าเรื่อง ศาสนศาสตร์เรื่องความรอดเพิ่มเติม)
C : Christ in focus
เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?
พระราชกิจที่สำคัญของพระเยซูในตอนนี้ คือ การสิ้นพระชนม์ การไปประกาศกับพวกวิญญาณที่ติดคุกอยู่สมัยโนอาห์ และทรงคืนพระชนม์ พระองค์เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า พวกวิญญาณทั้งหลายอยู่ใต้บังคับของพระองค์(22)
เปโตรน่าจะเปรียบเทียบเรื่องนี้เพื่อหนุนใจให้พี่น้องที่ถูกข่มเหงทนทุกข์ในเวลาของเปโตรให้อดทนต่อความทุกข์ และประกาศตัวเป็นผู้เชื่อในพระเยซูผ่านการรับบัพติศมา เพื่อจะได้รับความรอดฝ่ายวิญญาณในที่สุด เหมือนครอบครัวโนอาห์ที่ทนทุกข์ในเวลานั้น และมีเพียงสมาชิกในครอบครัวเขาที่รับความรอดในเวลานั้น
T : Transformation
เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?
สำหรับพวกเราในปัจจุบันนี้ พระเจ้าต้องการให้เรากลับใจใหม่ โดยการเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดและเป็นผู้นำเราไปถึงพระเจ้า (18) เมื่อเชื่อแล้วให้รับบัพติศมา เพื่อประกาศความเชื่อและรักษาชีวิตที่มีมโนธรรมที่ดีกับพระเจ้า มีชีวิตอธิษฐานวิงวอน(21)
ไม่กลัวผีหรือวิญญาณชั่วอีกต่อไป เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเรา และพวกวิญญาณเหล่านั้นอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้า
S : Serve
เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?