เทศนาที่ คริสตจักรพันธสัญญากรุงเทพ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2015

เทศนาที่ คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(HIM:GLC) วันที่ 2 ธันวาคม 2023

 ยน8:1-11  พันธกิจแห่งรัก: ผิดจริงยกโทษจริง 

1.พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน (7)

2.พระเจ้าเป็นผู้ยกโทษ  (10-11)

ยอห์น 8

1แต่พระเยซูเสด็จไปที่ภูเขามะกอกเทศ 2และในตอนเช้าตรู่พระองค์ทรงปรากฏที่บริเวณพระวิหารอีก คนทั้งหลายก็พากันมาหาพระองค์ พระองค์ประทับและทรงเริ่มสั่งสอนเขา 3พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีพาผู้หญิงคนหนึ่งมาหา หญิงคนนี้ถูกจับฐานล่วงประเวณี และพวกเขาให้นางยืนอยู่ต่อหน้าประชาชน 

4เขาทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะกำลังล่วงประเวณีอยู่ 5ในธรรมบัญญัตินั้นโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างคนอย่างนี้ให้ตาย แล้วท่านจะว่าอย่างไร?” 6เขาพูดอย่างนี้เพื่อทดลองพระองค์โดยหวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์ แต่พระเยซูน้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดิน 7และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก” 8แล้วพระองค์น้อมพระกายลงเอานิ้วเขียนที่ดินอีก 9แต่เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น เขาก็ออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่ เหลือแต่พระเยซูตามลำพังกับหญิงคนนั้นที่ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ 

10พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?” 11นางทูลว่า “ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก“

• ตัวอย่าง ชายคนหนึ่งซื้อหนูขาวมาให้เป็นอาหารงู เมื่อมันโดนใส่ไปในกรง มันไปซ่อนอยู่ใต้ขี้เลื่อย ขณะที่งูกำลังหลับอยู่ มันคิดว่ามันฉลาดที่ซ่อนตัวได้ พองูตื่นมามันก็โดนกินอยู่ดี 

• http://www.sermonillustrations.com/a-z/s/sin.htm

• บาปตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ เราก็ตายเพราะบาป เมื่อนั้น

• พระธรรมยอห์น8 ให้ศาสนศาสตร์ที่สำคัญ คือ เรื่องการยกโทษบาปโดยพระเยซู ไม่ใช่โดยธรรมบัญญัติ หรือการทำดี แต่มาจากพันธกิจแห่งความรัก ความรักของพระเจ้าที่มีสำหรับเราคือรับโทษตายแทนเรา

• 1ยน3:16 เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง

• มารนั้นมาเพื่อลักฆ่าและทำลาย เป้าหมายคือ ให้คนบาป ทำบาป และรับการลงโทษจากบาปที่ตนได้ทำ

• ฟาริสี และธรรมมาจารย์ใช้คนบาป เพื่อเป็นเครื่องมือในการบรรลุวัติถุประสงค์ของตน คือ ทำให้พระเยซูได้รับการลงโทษ ไม่ได้เห็นแก่หญิงที่ทำบาปเลย

• เขาต้องการปาหินใส่พระเยซูมากกว่าปาใส่หญิงล่วงประเวณี

• ธรรมาจารย์คือ คนที่มีความชำนาญธรรมบัญญัติ เป็นผู้คัดลอกธรรมบัญญัติ และสั่งสอนด้วย

• ฟาริสีเป็นผู้เคร่งครัดในธรรมบัญญัติของโมเสส และธรรมเนียมยิว 

• ฟาริสีแปลว่า แยกตัวออกมา พวกเขาแยกจากชุมชน ไม่ยุ่งกับคนบาป

• ข้อ 5 เขาถามพระเยซูว่า คิดเห็นอย่างไร

• แต่พระเยซูมีสติปัญญา แก้ไขปัญหาได้ และให้หลักการที่สำคัญที่ทำให้ คริสเตียน สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความหวังมีความมั่นใจได้

• ข้อแรก หากพระเยซูบอกว่า ให้เอาหินขว้างหญิงคนนั้น เพราะบัญญัติที่โมเสสเขียนก็ชัดเจน พวกฟาริสีจะไปแจ้งแก่โรม ที่ปกครองชาวยิวอยู่ ณ ช่วงเวลานั้น คือแผ่นดินของพวกยูดาย หรืออิสราเอล โรมชัดเจนว่าห้ามไม่ให้มีการฆ่าแกงกันโดยไม่ได้รับอนุญาตแก่โรม หากมีการกระทำ ถือว่าเป็นกบฎและมีบทลงโทษ 

• ตรงจุดนี้เห็นได้จาก เมื่อฟาริสีจะตรึงกางเขนพระเยซูในตอนท้าย ยังต้องไปขออณุญาตจากผู้ปกครองของโรม (ในที่นั้นคือ ปิลาต) ก่อน ให้โรมจัดการ ไม่ก็จัดการกันเอง ดังนั้น หากพระเยซูลงโทษให้หญิงคนนั้นตาย โรมจะต้องก้าวเข้ามา

• ข้อที่สอง แล้วหากพระเยซูไม่ยอมลงโทษหญิงคนนั้นล่ะ? จากข้อ4 ภาษาเดิมทำให้เข้าใจว่าหญิงคนนี้แต่งงานแล้ว โทษของการล่วงประเวณีของคนที่แต่งงานแล้วคือ เอาหินขว้างให้ตาย (ฉธบ22:22)

• ถ้าพระเยซูคริสต์ตอบเข้าทางพวกฟาริสี พวกเขาจะปลุกปั่นคนยิวว่า ชายคนนี้ไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะพระเยซูคริสต์ฝ่าฝืนบัญญัติที่ชัดเจนว่าให้เอาหินหว้างให้ตาย 

• การทดลองของฟาริสีครั้งนี้ คือ การเอาเป็นเอาตายอย่างมีเหตุผลรองรับทั้งสองด้าน ให้ทำตามบัญญัติ ก็ขัดโรม ไม่ทำตามบัญญัติ ก็ขัดพวกยิว

• หัวข้อคำเทศนาวันนี้ พันธกิจแห่งรัก : ผิดจริงยกโทษจริง 2 ประการ

1.พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน (7)

• “และเมื่อพวกเขายังทูลถามอยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ยืดพระกายขึ้นตรัสตอบเขาว่า “ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้เอาหินขว้างนางก่อนเป็นคนแรก“ 

• (3) ธรรมมาจารย์และฟาริสี สามารถลงโทษคนทำผิดได้แต่ทำไมเขาพามาหาพระเยซู เหตุผลอยู่ในข้อ 6 

• (6) เขาพูดอย่างนี้เพื่อทดลองพระองค์โดยหวังจะหาเหตุฟ้องพระองค์

• แต่เราที่เชื่อวางใจพระเจ้า ควรให้พระองค์ตัดสิน เพราะเรารู้ว่าพระเจ้า หวังดีต่อเรา  หญิงคนนี้ยังไม่ได้ขอ ยังไม่ได้กลับใจแต่พระเจ้าก็ยกโทษ 

• แท้ที่จริงเราสามารถศึกษาได้ว่า พระเจ้าจะตัดสินอย่างไร ผ่านพระคัมภีร์ ตัวอย่างเช่นเรื่องการล่วงประเวณีจากยอห์น8 ในตอนนี้

• การล่วงประเวณี เป็นเพียง ตุ๊กตา 1 ตัว ของบาปที่มีมากมาย เพราะเป็นคนบาปจึงทำบาป แต่ความที่มีพระฉายพระเจ้า มนุษย์จีงแสวงหาทางที่จะพ้นบาป

• พระเจ้าเปรียบเทียบการล่วงประเวณี เหมือนการนับถือ กราบไหว้ นมัสการพระอื่น หรือรูปเคารพต่างๆที่ไม่ใช่พระเจ้า

• การล่วงประเวณี คือ ความประพฤติผิดเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกายภาพหรือทางด้านความคิด จิตใจ เป็นการใช้เรื่องเพศสัมพันธ์นอกการสมรส (เราจะยังไม่กล่าวถึงเรื่องการหย่า เพราะอยู่นอกเหนือบริบท)

• ในพระคัมภีร์เดิมก่อนยุคธรรมบัญญัติ ตั้งแต่มนุษย์คู่แรก อาดัมเอวา มีลูกชื่อคาอินกับอาเบล เมื่ออาเบลโดนฆ่า อาดัมมีลูกอีกคนชื่อเสท โนอาห์มาจากเชื้อสายนี้ แล้วพระเจ้าก็ทำลายล้างโลก 

• โนอาห์มีลูก สาม คน คือ เชม ฮาม ยาเฟท อับราฮัมเป็นเชื้อสายของเชม 

• แท้ที่จริงมนุษย์ก็มาจากการขยายพงศ์พันธ์จากพี่ๆน้องๆ ที่มีพ่อแม่คนเดียวกัน 

• ในพระคัมภีร์หลังยุคธรรมบัญญัติ คือ ยุคของโมเสส จึงมีการห้ามพี่น้องมีเพศสัมพันธ์กันอีกต่อไป

• ลนต 18:1-30  9ห้ามเปิดของลับของพี่สาวหรือน้องสาวของเจ้า คือของบุตรสาวของบิดาเจ้า หรือของบุตรสาวของมารดาเจ้า ไม่ว่าที่เกิดในบ้านหรือเกิดที่อื่น

• ทัศนคติของพระเยซูต่อเรื่องการล่วงประเวณี คือ แค่คิดในใจแล้วมีใจกำหนัดกับหญิงนั้นก็บาปแล้ว

• มธ 5:27-28 27“ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา 28ฝ่ายเราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดมองผู้หญิงเพื่อให้เกิดใจกำหนัดในหญิงนั้น ผู้นั้นได้ล่วงประเวณีในใจกับหญิงนั้นแล้ว

• ตัวอย่าง มีชายคนหนึ่งฝันว่า พระเจ้าถาม 3 ฑูตสวรรค์ในลานพิพากษา ให้เสนอบาปที่ทำให้ไม่ได้ไปสวรรค์ มีคาเอล เสนอเรื่องความบาปต่อทรัพย์สินเงินทอง คนหายไปครึ่งหนึ่งจากลานพิพากษา กาเบรียลเสนอ เรื่องบาปต่อ ความหยิ่งผยอง การรักศักดิ์ศรีมากเกินไป คนหายไปอีกครึ่งหนึ่ง สุดท้าย Lucifer เสนอเรื่องบาปล่วงประเวณี ปรากฎว่า คนหายไปจากลานพิพากษาทั้งหมดเลย 

• แต่ในขณะที่เขาจะตื่นนั้น พระเยซูบอกว่าเราตัดสินเองดีกว่า ใครอยากรับพระคุณพระเจ้าในการยกโทษให้กลับมาใหม่ คนทั้งหมดที่เชื่อวางใจพระเยซูคริสต์ก็ได้รับความรอดไปสวรรค์ทั้งหมด

• สิ่งที่พระเยซูถาม (7) ใครในพวกท่านไม่มีบาป ให้ลงโทษคนบาปก่อนเลย 

• ที่พวกเขาไม่กล้าขว้างหินให้หญิงคนนี้ตายเพราะ ถ้าลงโทษผิดพลาด เขาก็จะโดนลงโทษอย่างเดียวกัน ไม่ใช่เพราะว่าเขามีสำนึกดีแต่อย่างใด

• ฉธบ17:5ท่านจงนำชายหรือหญิง ผู้ทำสิ่งชั่วร้ายนั้นออกมาที่ประตูเมือง และท่านจงเอาหินขว้างชายหรือหญิงนั้นเสียให้ตาย 6ผู้ที่ถูกกล่าวโทษถึงตายนั้น ให้มีพยานสองหรือสามปาก จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ ห้ามลงโทษใครถึงตายด้วยพยานปากเดียว 

• 7ในการประหารชีวิตนั้น ให้พวกพยานลงมือก่อน ต่อไปคนทั้งปวงจึงร่วมมือด้วย แล้วท่านจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน

• ฉธบ19:15-21 15″ห้ามพยานปากเดียวกล่าวโทษใคร ไม่ว่าในเรื่องอาชญากรรมหรือในเรื่องความบาปใดๆ ซึ่งเขาได้ทำไป แต่ต้องมีพยานสองหรือสามปาก คำพยานนั้นจึงจะเป็นที่เชื่อถือได้ 16ถ้ามีพยานเท็จกล่าวปรักปรำความผิดของใคร 17ก็ให้ทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้คดีกันนั้นยืนเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ ต่อหน้าพวกปุโรหิตและพวกผู้พิพากษาซึ่งประจำการอยู่ในเวลานั้น 

• 18ผู้พิพากษาจะต้องไต่สวนอย่างถี่ถ้วน ถ้าพยานนั้นเป็นพยานเท็จ กล่าวปรักปรำพี่น้องของตนเป็นความเท็จ 19ท่านจงทำต่อเขาดังที่เขาตั้งใจจะทำต่อพี่น้องของตน เพื่อท่านจะกำจัดความชั่วจากท่ามกลางท่านเสีย 

• 20คนอื่นๆ ที่เหลือจะได้ยินและยำเกรง ไม่ทำผิดเช่นนั้นท่ามกลางพวกท่านอีก 21อย่าให้นัยน์ตาของท่านสงสาร ควรให้ชีวิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ เท้าแทนเท้า

• สำหรับหลักการล่วงประเวณี ในศาสนาอื่นๆ ก็คิดว่าผิดเหมือนกัน

• การทำความเข้าใจเรื่อง จิตสำนึกของมนุษย์ หลักจริยธรรม กฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็สะท้อนเรื่อง อย่าทำผิด อย่าทำบาป จะมีการลงโทษ

• โรม 2:1-3 1เพราะฉะนั้น มนุษย์เอ๋ย ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร เมื่อท่านพิพากษาอีกคนหนึ่งนั้น ท่านไม่มีข้อแก้ตัวเลย เพราะเมื่อพิพากษาเขา ก็ได้ลงโทษตัวเองด้วย เพราะว่าท่านที่ตัดสินเขาก็ยังประพฤติอยู่อย่างเดียวกับเขา 2เรารู้ว่า การที่พระเจ้าทรงลงโทษคนที่ประพฤติเช่นนั้นก็สมควรจริงๆ

• 3มนุษย์เอ๋ย ท่านที่ตัดสินคนที่ประพฤติเช่นนั้น แต่ยังประพฤติเช่นเดียวกับเขา ท่านคิดว่าจะพ้นจากการลงโทษของพระเจ้าหรือ?

• พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน เพราะพระองค์ไม่มีบาป พระองค์รอบรู้ทุกสิ่ง อยู่ในทุกยุคทุกสมัย ทุกหนทุกแห่ง แต่ไม่ใช่อยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง

• เราวางใจในการตัดสินของพระเจ้าได้ เพราะพระลักษณะพระเจ้า ในทุกยุคทุกสมัยเรื่องความบริสุทธิ์ไม่มีเปลี่ยนแปลงเสมอ

• ให้เรานำปัญหาของเรา ความทุกข์ของเรา ความบาปของเรา ความยากจน ความผิดหวัง ความกระวนกระวาย ความกลัว มาถามพระเจ้าให้พระองค์ตัดสิน จะดีกว่าไหม  

• มนุษย์ไม่สามารถตัดสินมนุษย์ด้วยกันได้ ตามกฎของสวรรค์ พระเจ้าเป็นคนตั้งกฎ และพระเจ้าตัดสินตามกฎที่สอดคล้องกับพระลักษณะพระองค์

• คนบาป เหมือนคนสวมเสื้อผ้าอยู่ในน้ำแล้วหนาว จึงขอเสื้อกันหนาวหน่อย พอใส่เสื้อกันหนาวในน้ำมันจะแห้งได้ไหม มันจะหายหนาวได้ไหม 

• เหมือนเอากรรมการมวย ไปเป็นกรรมการตัดสินยิมนาสติก

• เหมือนคนที่พยายามทำดีมากๆเพื่อไถ่โทษ ไถ่บาปให้ตนเอง หรือให้คนอื่น เปรียบได้เหมือนคนที่จ่ายตลาดมาทำกับข้าวเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่ร้านอาหารส่งอาหารมาให้เต็มโต๊ะแล้ว

2.พระเจ้าเป็นผู้ยกโทษ (10-11)

• “ 10พระเยซูยืดพระกายขึ้นตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย พวกเขาไปไหนหมด? ไม่มีใครเอาโทษเธอหรือ?” 11นางทูลว่า “ท่านเจ้าข้า ไม่มีใครเลย” แล้วพระเยซูตรัสว่า “เราก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก “

• พระเยซูมีสิทธิอำนาจยกโทษได้ แม้ตอนนั้นพระองค์ยังไม่ได้ตายไถ่บาป และเป็นขึ้นจากความตาย

• ลูกา 5:24 แต่ทั้งนี้เพื่อให้พวกท่านรู้ว่าบุตรมนุษย์มีสิทธิอำนาจในโลกที่จะยกโทษบาปได้” พระองค์จึงตรัสสั่งคนง่อยว่า “เราสั่งท่านว่าจงลุกขึ้นยกที่นอนแล้วกลับไปที่บ้านของท่าน“

• เพราะมนุษย์ทำผิดกับพระเจ้า พระเจ้าจึงเป็นผู้มีอำนาจในการยกโทษ ไม่ใช่มนุษย์จะคิดเอาเองว่า อะไรคือ สิ่งดีที่ทำแล้วพระเจ้าจะยกโทษ

• เวลาเราทำผิดเราก็ต้องการ ให้คนที่เราทำผิดด้วยนั้นยกโทษให้เรา เพราะเขารักเราเขาจึงยกโทษ เมื่อเรารักใครเราก็อยากยกโทษให้เขา

• แต่เวลาคนอื่นทำผิดต่อเรา เราอยากให้คนทำผิดโดนลงโทษให้หนักเลย เพราะเราไม่ได้รักเขา คนที่ทำผิดต้องการการยกโทษเพราะความผิดมันจะอยู่กับเขาตลอดไปบอกใครไม่ได้ สารภาพกับใครก็ไม่ได้

• ตัวอย่าง ได้ผลงานยอดเยี่ยมแต่บอกใครไม่ได้

• ชายคนหนึ่งติดกอล์ฟ เหมือนติดยาเสพติด วันหนึ่งเขาจะหนีงานไปเล่นกอล์ฟ แต่ ฑูตสวรรค์เตือนว่าถ้าเขาไปเล่น เขาจะโดนลงโทษ เขาไม่สนคำเตือน เพราะหนีไปเล่นหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย วันนั้นเขาตีโฮลอินวัน ตีไกลได้มากกว่า 300 หลา ผ่านไป9 หลุม เขาตีไปเพียง 30 ครั้งเท่านั้น ซึ่งตีได้ดีกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา และเมื่อเขากลับไปทำงาน เขามีความสุขมาก แต่พอจะเล่าให้ใครฟัง เขาไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ 

• http://www.sermonillustrations.com/a-z/p/punishment.htm

• ถ้าโลกนี้มีแต่กฎหมาย และกฎจริยธรรม เราคงต้องโดนประหารชีวิตเพราะบาปผิดที่เราทำ ให้คนอื่นรับโทษแทนไม่ได้

• หญิงคนนี้ทำผิดจริง แต่ยังไม่รู้เลยว่ากลับใจหรือไม่กลับใจ แต่พระเยซูยกโทษให้โดยพระคุณ แต่ขอให้หลังจากรับพระคุณแล้วอย่าทำบาปอีก

• แต่ทำไมชายที่ล่วงประเวณีด้วย ไม่ได้ถูกนำตัวมาลงโทษ (เข้าใจว่าเขาหนีไป)

• มันง่ายที่ทำผิดแล้วก็ลงโทษ

• แต่เป็นการยากที่ทำผิดแล้วยกโทษ เรื่องฝ่ายวิญญาณเป็นแบบนี้เสมอ

• พระเจ้าอยากให้เรายกโทษ เพราะเป็นประโยชน์กับเราเอง และเป็นการแสดงออกถึงความรักที่เราได้รับจากพระเจ้า และเรามอบความรักให้กับคนที่ทำผิดกับเรา(แสดงว่าเรารักเขา)

• มีตัวอย่าง ชายที่ได้รับการยกหนี้ 1 หมื่นตะลันต์ ประมาณ 200 ล้าน แต่ไปทวงเงินลูกหนี้ประมาณ 100 เดนาริอัน เป็นเงิน 3 หมื่น 

• มธ18:35พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะทรงทำต่อพวกท่านอย่างนั้น ถ้าพวกท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจของพวกท่าน”

• ตรงกันข้ามกับหญิงชั่วในลูกา 7:47-50 พระเยซูคริสต์บอกว่าบาปต่างๆมากมายของนางได้รับการยกโทษแล้วเพราะนางรักมาก

• 47เพราะฉะนั้นเราบอกท่านว่าบาปต่างๆ ของนางซึ่งมีมากมายนั้นได้รับการยกโทษแล้วเพราะนางรักมาก แต่คนที่ได้รับการยกโทษน้อยก็รักน้อย” 48พระองค์จึงตรัสกับนางว่า “บาปของเธอได้รับการยกโทษแล้ว” 49บรรดาคนที่ร่วมเอนกายที่โต๊ะอาหารด้วยก็พูดกันว่า “คนนี้เป็นใครกันถึงยกโทษบาปได้?” 50พระองค์จึงตรัสกับหญิงคนนั้นว่า “ความเชื่อของเธอทำให้เธอรอด จงไปเป็นสุขเถิด”ตัวอย่างการยกโทษ

• มิชชั่นนารียุคแรกๆที่ไปประกาศที่เมือง อัลเบอร์ตา แคนนาดา พวกเขาถูกต้านอย่างหนักจากอินเดียแดงเผ่าครี หัวหน้าเผ่าชื่อ Maskepetoon ซึ่งต่อมาภายหลังได้กลับใจจากบาปต้อนรับพระเยซูคริสต์  คุณพ่อของเขา ถูกเผ่า Blackfoot ฆ่าตาย เขาขี่ม้าเข้าไปในหมู่บ้านฆาตกรเผชิญหน้ากับคนที่ฆ่าพ่อของเขา แล้วกล่าวว่า “คุณได้ฆ่าพ่อของฉัน ดังนั้นตอนนี้คุณต้องเป็นพ่อของฉัน คุณจะขี่ม้าที่ดีที่สุดของฉัน และสวมใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุดของฉัน” ศัตรูของเขาอุธานด้วยความประหลาดใจ และสำนึกผิด “ลูกชายของฉันตอนนี้คุณได้ฆ่าฉัน” เขาหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ

• ความเกลียดชังในหัวใจของเขาได้ถูกลบออกไปโดยการให้อภัย และความมีเมตตาของ Maskepetoon 

• http://www.sermonillustrations.com/a-z/f/forgiveness.htm