เทศนาที่ คริสตจักรชีวิตรุ่งเรือง(HIM:GLC) วันที่ 17 ธันวาคม 2023
เทศนาที่ คริสตจักรมหาชล สถานนมัสการรามคำแหง (กันและกัน) วันที่ 24 ธันวาคม 2023
ลก12:13-21 “มาหาพระคริสต์ด้วยท่าทีอย่างไร (ในวันคริสต์มาส)”
1.ตามแบบพันธสัญญาใหม่ (14)
2.ตามแบบพระประสงค์ของพระเจ้า (20-21)
13มีคนหนึ่งในฝูงชนนั้นทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ ช่วยบอกพี่ชายของข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกแก่ข้าพเจ้าด้วย” 14แต่พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “พ่อหนุ่ม ใครตั้งเราให้เป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกให้ท่าน?” 15แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ระวังให้ดี จงหลีกเลี่ยงจากความโลภทุกอย่าง เพราะว่าชีวิตของคนไม่ได้อยู่ที่การมีของฟุ่มเฟือย” 16แล้วพระองค์ตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาฟังว่า “ไร่นาของเศรษฐีคนหนึ่งเกิดผลบริบูรณ์มาก 17เศรษฐีคนนั้นจึงคิดในใจว่า ‘ข้าจะทำอย่างไรดี? เพราะว่าข้าไม่มีที่ที่จะเก็บพืชผลของข้า’ 18เขาจึงคิดว่า ‘ข้าจะทำอย่างนี้ คือจะรื้อยุ้งฉางของข้าและจะสร้างใหม่ให้ใหญ่โตขึ้น แล้วข้าจะรวบรวมข้าวและสมบัติทั้งหมดของข้าไว้ที่นั่น 19แล้วจะบอกกับจิตใจของข้าว่า “จิตใจเอ๋ย เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากเก็บไว้พอหลายปี จงอยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่นเริงเถิด” ’ 20แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า ‘โอ คนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า แล้วของที่เจ้ารวบรวมไว้นั้นจะเป็นของใคร?’ 21คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัว และไม่ได้มั่งมีฝ่ายพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้นแหละ”
เนื่องในโอกาสคริสต์มาส วันนี้อยากเตรียมใจให้เรานำคนมาหาพระเยซูคริสต์ ในแบบที่พระองค์มีพระประสงค์ในการเสด็จมา
คริสต์มาสไม่ใช่วันเกิดพระเยซูคริสต์ แต่เป็นวันที่ความเชื่อในพระเยซูคริสต์ได้ถูกประกาศเป็นวันเทศกาลสำคัญในประวัติศาสตร์ทำให้มีการเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ถึงปัจจุบันนี้
เบื้องหลังของพระธรรมตอนนี้ เป็นคำสอนสาวกเกี่ยวข้องกับการแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า วางใจพระเจ้าในการเลี้ยงดู ไม่ต้องกระวนกระวาย
วันนี้เราจึงมาเรียนรู้เรื่องนี้ ผ่านหัวข้อคำเทศนา ลก12:13-21 “มาหาพระคริสต์ด้วยท่าทีอย่างไร (ในวันคริสต์มาส)”
1.ตามแบบพันธสัญญาใหม่ (14)
14แต่พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “พ่อหนุ่ม ใครตั้งเราให้เป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกให้ท่าน?”
ขอให้เรามาหาพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ตามพันธสัญญาเดิม แต่เป็นพันธสัญญาใหม่ ตามบัญญัติเดิมมีกฎการแบ่งมรดก แต่พี่ชายไม่แบ่งให้(ฉธบ21:15-17)
ขอให้เรามาหาพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่ตามศิลธรรมเดิม จริยธรรมเดิม ความเชื่อเดิม ตามศาสนาเดิม เพราะทำให้เราไม่สามารถเข้าใจและเชื่อพระเจ้าได้
สถานการณ์ชายคนนี้พ่อแม่ตายไปแล้ว มีมรดกให้ไว้ แต่พี่น้องแทนที่จะรักกัน ช่วยดูแลกันและกันแทนพ่อแม่ด้วยมรดกที่พ่อแม่ทิ้งให้ไว้ แต่พวกเขากับทะเลาะกันเพราะแย่งมรดกกัน
พวกเขายังไม่ได้เรียนรู้จากการที่พ่อแม่ตายไป เพราะวันหนึ่งเมื่อพวกเขาตายไปแล้ว มรดกทรัพย์สินของพวกเขา พวกลูกๆจะมาแย่งกัน ทะเลาะกันหรือเปล่า แล้วพวกเขาเรียนรู้อะไรจากพ่อแม่ของพวกเขาบ้าง
ขอให้เรามาหาพระเยซูคริสต์ ตามพันธสัญญาใหม่ คือ พระเยซูคริสต์ไม่ใช่นักศาสนา ไม่ใช่ศาสดา ไม่ใช่ผู้นำทางศาสนา แต่เป็นพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์ มาตายเพื่อไถ่บาป นำมนุษย์รับการยกโทษบาป พ้นจากการพิพากษาในวันสุดท้าย โดยกลับคืนดีกับพระเจ้า
ฮบ9:14-1514มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่15เพราะเหตุนี้ พระคริสต์จึงทรงเป็นคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ เพื่อให้คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกมาได้รับมรดกนิรันดร์ตามพระสัญญา เพราะความตายที่เกิดขึ้นนั้นไถ่พวกเขาให้พ้นจากบรรดาการล่วงละเมิดที่เกิดภายใต้พันธสัญญาเดิมแล้ว
หลายคนไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์เพราะใช้กรอบความคิดเดิม กรอบความคิดตนเอง ประสบการณ์ของตนเอง ตัดสินพระเยซูคริสต์ เลยทำให้เขาไม่เชื่อในพระเยซูคริสต์ตามแบบที่พระเจ้าเปิดเผยในพันธสัญญาใหม่
2.ตามแบบพระประสงค์ของพระเจ้า (20-21)
20แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า ‘โอ คนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า แล้วของที่เจ้ารวบรวมไว้นั้นจะเป็นของใคร?’ 21คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัว และไม่ได้มั่งมีฝ่ายพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้นแหละ”
ข้อคิด : มั่งมีฝ่ายพระเจ้าแสดงว่า ความมั่งมีนั้นพระเจ้าเห็นด้วย พระเจ้าเห็นชอบด้วย พระเจ้าสนับสนุน เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า ความมั่งมีนั้นทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นและผู้คนรอบข้างเขาดีขึ้น ตรงกันข้ามคนมั่งมีเพื่อตนเอง โลภเพื่อตนเอง ทำให้ไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า และจะมีการพิพากษา
ชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามาหาพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแต่ขอแค่ทรัพย์สมบัติเท่านั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะกราบไหว้ จะนมัสการ จะเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะทำตามความปรารถนา ความต้องการของเขาได้
ทั้งๆที่พระเยซูคริสต์ พระเจ้าผู้ให้ชีวิตนิรันดร์ที่เงินทองมากขนาดไหนในโลกนี้ก็หาซื้อชีวิตนิรันดร์ไม่ได้ คนส่วนใหญ่มาหาพระเยซูคริสต์เพราะอยากได้รับการอวยพร ไม่ใช่ต้องการชีวิตนิรันดร์
ชายหนุ่มคนนี้ เขามาหาพระเยซูคริสต์ โดยเขาขอตามความต้องการของตนเอง ขอตามความคิดของตนเอง แต่เขาไม่ได้ขอตามพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ ที่ปรารถนาจะให้ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเยซูคริสต์ประทานให้เขาดีกว่าที่เขาขอ ที่เขาคิด ที่เขาต้องการ
ตัวอย่าง หญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำ ต้องการแค่น้ำดับกระหาย แต่พระเยซูคริสต์ให้น้ำที่พลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์
ยน4:14 แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์”
ตัวอย่าง คนห้าพันคนขอแค่ขนมปังกับปลาให้อิ่มท้อง มีชีวิตรอดไป1มื้อ แต่พระเยซูคริสต์ให้อาหารแห่งชีวิตนิรันดร์ ยน6:35พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต คนที่มาหาเราจะไม่หิว และคนที่วางใจในเราจะไม่กระหายอีกเลย 40เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ที่จะให้ทุกคนที่เห็นพระบุตรและวางใจพระองค์มีชีวิตนิรันดร์ และเราเองจะให้คนนั้นเป็นขึ้นมาในวันสุดท้าย”
ความโลภในทรัพย์สมบัติ ความโลภในสิ่งของวัตถุในโลกนี้ เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนชั่วได้ ทำให้คนเชื่อในพระเจ้าละทิ้งทางของพระเจ้าได้ แต่การเป็นคนมั่งมีฝ่ายพระเจ้าสามารถทำได้ เมื่อเราตั้งใจดำเนินชีวิตตามวิถีทางชอบธรรมของพระเจ้าได้
พระเยซูคริสต์เตือนชายคนนี้ เรื่องการโลภ และการมีของฟุ่มเฟือยซึ่ง หมายถึง การมี การครอบครองอย่างมากมาย
15แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ระวังให้ดี จงหลีกเลี่ยงจากความโลภทุกอย่าง เพราะว่าชีวิตของคนไม่ได้อยู่ที่การมีของฟุ่มเฟือย”
สิ่งที่คนเราทุกคนต้องการตอนมีชีวิตอยู่คือ ข้อ19 แล้วจะบอกกับจิตใจของข้าว่า “จิตใจเอ๋ย เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากเก็บไว้พอหลายปี จงอยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่นเริงเถิด”
เราจะวางใจในทรัพย์สินที่เรามี หรือที่เราหามาได้ หรือเราจะวางใจในพระเยซูคริสต์ผู้ทรงประทานการเลี้ยงดูเหมาะสมกับชีวิตเรา พอตายไปแล้ว ส่ิงที่พระเยซูคริสต์สอนในข้อ20-21 เราจะทิ้งสมบัติไว้ให้ใคร เราที่ไม่มั่งมีฝ่ายพระเจ้า เราจะยากจนฝ่ายวิญญาณ เราจะตายฝ่ายวิญญาณเหมือนที่ร่างกายตายฝ่ายกายภาพ
ทำไมเราอยากร่ำรวยฝ่ายกายภาพเท่านั้น แต่ไม่อยากร่ำรวยฝ่ายวิญญาณ
ทำไมเราถึงไม่เลือกความร่ำรวยฝ่ายวิญญาณ และความร่ำรวยฝ่ายกายภาพทั้งสองอย่างไปพร้อมกันด้วย
แต่ให้ระวังคริสตจักรที่สอนให้เราเข้าไปยึดครองโลก เข้าไปเป็นเกลือแสงสว่างอยากมีอิทธิพลต่อโลกแต่ไม่ได้นำคนมาเชื่อในพระเยซูคริสต์อย่างจริงจัง ต้องการแค่ผลประโยชน์ในการครอบครองโลกเท่านั้น
พระเยซูคริสต์สอนให้เรามั่งมีฝ่ายพระเจ้าได้ ถ้าเราดำเนินชีวิตในทางพระเจ้า กับพระเยซูคริสต์ตลอดวันคืนชีวิตของเรา เราจะมั่งมีฝ่ายวิญญาณอย่างแน่นอน
พระเจ้าอวยพรเราได้ เมื่อเราเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า เมื่อเราทำมาหากินชอบธรรม เมื่อเราแสดงความรักของพระเจ้าด้วยการให้ผู้อื่นด้วยความรัก แทนที่จะโลภ แสวงหาทรัพย์สินผู้อื่นเอามาเป็นของตน หรือใช้ทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของตนเองอย่างเห็นแก่ตัวเท่านั้น
อย่าพลาดในเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือ การเลือกที่จะรักโลกที่ไม่ยั่งยืน แต่ทิ้งชีวิตนิรันดร์ โดยการปฎิเสธที่จะเชื่อในพระเยซูคริสต์
ตัวอย่าง คำสั่งเสียก่อนสิ้นพระชนม์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช
1:หาแพทย์ที่เก่งสุดมาเป็นผู้หามศพของข้า
2:เอาสมบัติในท้องพระคลังมาวางบนพื้นตลอดเส้นทางที่แห่ศพของข้า
3:ให้แง้มฝาโลงและเอามือข้ายื่นออกมาจากโลงศพ
ขุนพลผู้ภักดีสงสัยเหตุใดถึงทำเช่นนี้ มหาราชตอบอย่างช้าๆ
1:ให้หมอหามโลงศพข้าเพื่อประกาศว่าแม้หมอเก่งที่สุดก็ไม่อาจเอาชนะความตายได้
2:ทรัพย์สมบัติข้าเอาติดตัวไปไม่ได้ต้องคืนให้กับแผ่นดิน
3:ข้ามายังโลกนี้ด้วยมือเปล่าจากโลกนี้ไปด้วยมือเปล่าเหมือนที่ข้ามานั่นแหละ
ให้เราร่วมใจกันอธิษฐาน
อ้างอิง
- https://biblehub.com/commentaries/cambridge/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/pulpit/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/ellicott/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/benson/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/mhc/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/barnes/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/jfb/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/gill/luke/12.htm
- https://bible.alpha.org/th/classic/98/index.html
- https://biblehub.com/commentaries/meyer/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/egt/luke/12.htm
- https://biblehub.com/commentaries/cambridge/luke/12.htm