ส่ิงที่เรียนรู้จากพระธรรม1 เปโตร คือ การรับการสร้างชีวิตให้เติบโตขึ้นในฝ่ายจิตวิญญาณของผู้เชื่อ เป็นผลมาจากการทนทุกข์ของพระเยซูคริสต์
เมื่อท่านศึกษาเฝ้าเดี่ยวพระธรรม1 เปโตรแล้ว ท่านจะยอมรับการสร้างชีวิตให้เติบโตเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า
4จงมาหาพระองค์ พระศิลาที่มีชีวิต ที่แม้ถูกมนุษย์ปฏิเสธแล้ว แต่กลับเป็นศิลาที่ทรงเลือกสรร และล้ำค่าในสายพระเนตรพระเจ้า
5และพวกท่านเองเป็นดังศิลาที่มีชีวิต จงรับการสร้างขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ เพื่อเป็นปุโรหิตบริสุทธิ์ เพื่อถวายเครื่องบูชาฝ่ายวิญญาณ อันเป็นที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์
6เพราะมีคำกล่าวไว้ในพระคัมภีร์แล้วว่า
“นี่แน่ะ เราวางศิลาก้อนหนึ่งลงในศิโยนเป็นศิลาหัวมุมที่เลือกสรรอันล้ำค่าและใครที่เชื่อในพระองค์ก็จะไม่ผิดหวัง ”
7เพราะฉะนั้น พระองค์ทรงมีค่ามหาศาลสำหรับพวกท่านที่เชื่อ แต่สำหรับคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อนั้นศิลาที่ช่างก่อสร้างปฏิเสธไม่เอาแล้วศิลานี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก 8และเป็นศิลาที่ทำให้คนสะดุดและเป็นหินที่ทำให้คนหกล้ม ที่พวกเขาสะดุดนั้น เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังพระวจนะ ตามที่พวกเขาถูกกำหนดให้ทำเช่นนั้น
9แต่พวกท่านเป็นพงศ์พันธุ์ที่ทรงเลือกสรร เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์ เป็นประชากรอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า เพื่อให้พวกท่านประกาศพระเกียรติคุณของพระองค์ ผู้ได้ทรงเรียกพวกท่านให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์
10เมื่อก่อนพวกท่านไม่ใช่ประชากรแต่บัดนี้พวกท่านเป็นประชากรของพระเจ้าแล้วเมื่อก่อนพวกท่านไม่ได้รับพระเมตตาแต่บัดนี้พวกท่านได้รับพระเมตตาแล้ว
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับมาตรฐาน 2011 สงวนลิขสิทธิ์ 2011 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย
A : Attitude
เราได้รับความรู้ใหม่ๆ หรือเราได้รับทัศนคติใหม่ๆ จากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่อ่านเรื่องอะไรบ้าง?
มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิตเมื่อเราได้กลับใจใหม่จากบาป มาเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ แม้การเปลี่ยนแปลงนั้นบางอย่างเราอาจจะไม่เห็นด้วยตาทันที
แต่เมื่อเราเชื่อเรามีเป้าหมายและปลายทางชีวิตใหม่ที่พระเจ้ากำหนดให้เราอย่างดี จากพระธรรมตอนนี้ เราจะเห็นว่า
เราควรรับการสร้างขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายวิญญาณ หมายความว่า ให้มีพระเจ้าอยู่ด้วยในการดำเนินชีวิต (5)
เราควรรับการสร้างขึ้นเป็นปุโรหิต ซึ่งมีหน้าที่ในการถวายบูชาแด่พระเจ้า หมายความว่า เราต้องดำเนินชีวิตบริสุทธิ์กับพระเจ้าเพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัย (5,9)
เราควรดำเนินชีวิตเป็นประชากรอันบริสุทธิ์ เป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า หมายความว่า เราจะดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้าไม่ใช่ทำตามใจของเราเอง ทางของพระเจ้าเป็นทางไปสู่ชีวิตนิรันดร์(9-10)
C : Christ in focus
เรามองเห็นพระเยซูเป็นใคร พระองค์ทำอะไรบ้าง ผ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ตอนที่เราอ่านอย่างไรบ้าง?
พระเยซูถูกเปรียบเทียบเหมือนเป็นรากฐานที่สำคัญ ของพระนิเวศ คือ เป็นศิลามุมเอก (6) มีความสำคัญ แต่มีคนจำนวนมากปฎิเสธพระองค์(8)พวกเขาสะดุด พวกเขาล้มลง แล้วคนที่ปฎิเสธพระองค์พวกเขาจะถูกไถ่รอดพ้นจากความบาปได้อย่าง พวกเขาจะได้รับการสร้างขึ้นเป็นพระนิเวศน์ฝ่ายวิญญาได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ไม่เชื่อพระเยซูยังเป็นผู้ที่ข่มเหงพระองค์ ทำให้พระองค์ทนทุกข์ แต่สำหรับเราการทนทุกข์ของพระองค์มีคุณค่าต่อเราที่เชื่ออย่างมาก(7) คือทำให้ผู้เชื่อได้รับความรอด และได้รับการสร้างชีวิตฝ่ายวิญญาณให้เติบโตขึ้น
มธ11:6ใครไม่มีเหตุสะดุดในตัวเรา คนนั้นก็เป็นสุข”
T : Transformation
เราต้องการให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในด้านใดบ้าง?
พระเจ้าประทับอยู่กับเรา หากชีวิตเราเป็นนิเวศน์ฝ่ายวิญญาณ(4)
พระเจ้าให้เราเป็นประชากรอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ เราสามารถออกจากชีวิตแห่งความมืด ความบาป ไปสู่ความบริสุทธิ์ความชอบธรรม สันติสุขของพระเจ้าได้ เราไม่ดำเนินชีวิตตามใจเราอีกต่อไป แต่ดำเนินชีวิตตามทางของพระเจ้า ซึ่งมีปลายทางที่ดีสำหรับชีวิตของเราแน่นอน
อย่าใช้ชีวิตเหมือนหินสะดุดทำให้คนไม่มาหาพระเจ้า หรือขัดขวางคนมาหาพระเจ้า
S : Serve
เราจะดำเนินชีวิตเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น และต่อพระเจ้าได้อย่างไรบ้าง?